ชาติแรกในอาเซียน! สว.ไทยผ่าน กม.สมรสเท่าเทียม

วุฒิสภาไทยผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเมื่อวันอังคาร ปูทางประเทศไทยขึ้นแท่นประเทศแรกในอาเซียนที่รับรองการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

ที่ประชุมวุฒิสภาในวันอังคาร สว. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในวาระ 3 ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 130 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนนเสียง 0 จากจำนวนผู้ลงมติ 152 เสียง

ร่างกฎหมายดังกล่าวนับเป็นดอกผลของการต่อสู้โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ผลักดันมากว่า 2 ทศวรรษ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากวุฒิสภา

เพื่อให้กลายเป็นตัวบทกฎหมาย ร่างพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมนี้จะต้องได้รับการลงพระปรมาภิไธยโดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และจะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา นั่นหมายความว่าทุกเพศสามารถสมรสกันได้ในช่วงปลายปีนี้

ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อแทนที่คำเฉพาะเพศ อย่าง “ชายและหญิง” ด้วยคำที่ไม่ระบุเพศ เช่น “บุคคล”

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ได้โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “วันนี้เราได้ฉลองหลักชัยที่สำคัญอีกอย่างในเส้นทางของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม .. เราจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อสิทธิของทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม”

บรรดานักการเมืองและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ร่วมฉลองการผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันอังคาร โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกการผ่านร่างกฎหมายนี้ว่าเป็น “ก้าวที่ยิ่งใหญ่ไปข้างหน้า” ในช่วงที่ไทยจะกลายเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่บังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม และเป็นชาติที่ 3 ในเอเชีย ต่อจากเนปาลและไต้หวัน

น.ส.ปลายฟ้า เคียวกะ โชติรัตน์ กรรมาธิการแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียม กล่าวกับรอยเตอร์ว่า “เราภูมิใจที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ .. วันนี้ความรักชนะอคติ .. หลังการต่อสู้มากกว่า 20 ปี วันนี้เราบอกได้ว่าประเทศนี้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว”

รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้ความสำคัญต่อร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ในแง่ของการกระตุ้นการท่องเที่ยวของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ อีกทั้งร่างกฎหมายนี้ยังถือเป็นชัยชนะของฝ่ายก้าวหน้าในรัฐบาลของเขา หลังจากมีกระแสวิจารณ์ว่าการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ปิดกั้นการปฏิรูปเชิงโครงสร้างหลายอย่างเพื่อให้ได้จัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งเมื่อปีก่อน

• ที่มา: รอยเตอร์, เอพี