ทางการไทยยุติการส่งไฟฟ้าให้กับเมียนมา บริเวณ 2 พื้นที่พรมแดนที่มีอาณาจักรคาสิโน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของอาชญากรข้ามชาติรายใหญ่ ตามรายงานของเอพี
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังเมืองเมียวดี เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ ตามการเปิดเผยของมนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก กับทางเอพี ที่บอกว่าธุรกิจในเมืองที่ถูกตัดไฟยังดำเนินการต่อได้อย่างไม่มีปัญหาเนื่องจากผู้ประกอบการได้เตรียมพร้อมสำหรับการตัดไฟในระดับ 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ เมืองชเวโก๊กโกและเลเกก่อ ในเมียนมา เป็นที่ตั้งของอาณาจักรคาสิโนและสถานบันเทิงที่มีทุนจากจีน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นพื้นที่ที่หลอกลวงผู้คนหลากหลายชาติให้เข้ามาทำงาน ก่อนจะกักขังหน่วงเหนี่ยวพวกเขาและถูกบังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์ รวมทั้งยังมีการกล่าวหาด้วยว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งค้ายาเสพติดและค้ามนุษย์ด้วย
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไฟฟ้าที่ถูกตัดใน 2 เมืองดังกล่าวเนื่องจากทางกฟภ.หมดสัญญา และทางรัฐบาลเมียนมาปฏิเสธที่จะต่อสัญญานี้ แต่ก็พร้อมที่จะกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าให้หากเมียนมาพร้อมจะต่อสัญญากัน
ตอนนี้ทางรัฐบาลทหารเมียนมายังไม่ออกมาอธิบายจุดยืนของเมียนมาในประเด็นนี้ แต่สื่อ Global New Light of Myanmar รายงานว่า ทูตจีนประจำเมียนมาได้พบกับรัฐมนตรีกิจการภายในเมียนมา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายตำรวจเมียนมาเพื่อหารือในประเด็นภายในภูมิภาค รวมทั้งเรื่องการฉ้อโกงออนไลน์และธุรกิจการพนันบริเวณพรมแดนจีน-เมียนมาและพรมแดนไทย-เมียนมา และว่าทั้งสองฝ่าย “เพิ่มความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ”
เอพีรายงานข้อมูลจากสื่อไทยพีบีเอสของไทย ที่ระบุว่า ไฟฟ้าในเมืองชเวโก๊กโกดับเป็นเวลา 30 วินาทีก่อนกลับมาเป็นปกติในอาคารใหญ่ ๆ แต่พื้นที่อื่นของเมืองตกอยู่ในความมืด ขณะที่ KK Park อาณาจักรคาสิโนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแก็งต้มตุ๋นออนไลน์ ที่มีการบังคับใช้แรงงานโดยผู้ที่หลบหนีจากจีน มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ นั้น กลับไม่มีปัญหาไฟดับแต่อย่างใด
ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด เพิ่มเติมว่า ทางกองกำลังกะเหรี่ยงพิทักษ์ชายแดน (BGF) อยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลเมียนมาเพื่อต่อสัญญาด้านไฟฟ้า
เมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลเมียนมาได้ขอให้ทางการไทยตัดการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่คาสิโน ทำให้เกิดการประชุมภายในหน่วยงานของทางการไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจข้ามพรมแดนและการเพิ่มขึ้นของธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่
- ที่มา: เอพี