การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรด้วยตนเองที่คูหาในกรุงวอชิงตันเป็นเวลา 3 วันผ่านไปเรียบร้อยแล้ว โดยสัดส่วนของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในส่วนนี้มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้แจ้งเจตจำนง
ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศไทยจะเกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงวอชิงตัน เปิดทางเลือกให้ผู้มีสิทธิ์ที่ลงทะเบียนเลือกตั้งเลือกตั้งแบบคูหาไว้แล้วมาใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 ถึงวันอาทิตย์ที่ 30 ตามเวลาในสหรัฐฯ โดยวิธีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกของสถานทูตไทย นอกเหนือจากการลงคะแนนผ่านเอกสารที่ส่งทางไปรษณีย์ ที่ทางสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ในสหรัฐฯทยอยจัดส่งถึงผู้ลงทะเบียนตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ บอกกับ วีโอเอว่า เป็นหนทางหนึ่งเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนชาวไทยที่มีสิทธิ์ทางการเมืองและอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ให้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้น พร้อมระบุด้วยว่า “การลงคะแนนเสียงแบบมีคูหา เนี่ยเราจะได้พบเห็นพี่น้องคนไทยอ่ะตัวจริงนะครับเราได้มีโอกาสได้ต้อนรับได้ดูแลได้กลับมาที่สถานทูตเหมือนบ้านของคนไทยนะครับในต่างประเทศนะครับอย่างน้อยในพื้นที่รัฐใกล้เคียง ... อันนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสครับผมมองว่าเป็นโอกาสที่สถานทูต ทีมงานของฝ่ายกงสุล ของเราจะได้ดูแลได้รู้จักพี่น้องคนไทยมากขึ้นมีความเชื่อมโยงกันมากขึ้น”
ในวันแรกของเปิดการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรด้วยตนเอง ผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้วเริ่มทยอยมาใช้สิทธิ์กันแม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นใจ เนื่องจากมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน แต่ก็มีหลายคนที่ยอมฝ่าฝนมาเพื่อให้ได้กาบัตรลงคะแนนที่คูหา
กมเลศ สุปราชญาวุฒิกุล คือ หนึ่งในชาวไทยในสหรัฐฯ ที่เลือกมาลงคะแนนด้วยตนเอง โดยเธอบอกกับ วีโอเอ ว่า “รู้สึกรู้สึกตื่นเต้นนะคะเป็นครั้งแรกที่เรารู้โอกาสได้ใช้สิทธิ์ใช้เสียงในฐานะคนไทยในต่างประเทศอ่ะค่ะ รู้สึกตื่นเต้นร่วมกับฝนตกหนักก็ยังดันทุรังมาให้ได้ค่ะเพื่อจะได้ใช้สิทธิใช้เสียง ... อยากจะใช้สิทธิใช้เสียงเพราะว่าเราอยากให้ประเทศของเราเนี่ยมีความเจริญมีความพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แล้วก็อยากให้ทุกอย่างเนี่ยมันก้าวหน้า แล้วก็อยากให้ประชาชนเนี่ยอยู่อย่างมีความสุขค่ะ”
วีโอเอ ไทย ยังพบกับกลุ่มนักศึกษาไทยที่ตื่นเต้นกับการใช้สิทธิ์ที่คูหาในสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่า ไว้วางใจได้มากกว่าการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ที่กลัวว่า อาจมีความล่าช้าหรือสูญหายได้
ติดตา บัวบุตร นักศึกษาไทยที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตไทย กล่าวว่า “คือรู้สึกว่า ถึงแม้อยู่ต่างประเทศแต่เราก็ยังมีความเป็นไทยแล้วยังเป็นคนไทยอยู่ค่ะ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านเมืองเราก็ยังมีผลกระทบต่อพี่น้องคนไทยคนอื่น แล้วก็หมายถึงครอบครัวด้วย ตัวเราด้วยค่ะ ก็รู้สึกว่าคนไทยด้วยกันคนจากมาใช้สิทธิใช้เสียงเพื่อให้ทำประโยชน์กับประเทศชาติในสิ่งที่เราต้องการค่ะ”
ขณะที่ วรรณชิดา ด่านธนวานิช นักศึกษาไทยวัย 26 ปีที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์เช่นกัน เห็นด้วยกับการที่คนไทยควรออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อมีโอกาส โดยกล่าวว่า “เป็นหนึ่งในหน้าที่ของพลเมืองนะคะ แล้วก็อยากให้ส.ส.แล้วก็นายกฯ มาจากเสียงเลือกตั้งของประชาชนจะได้มาเพื่อสะท้อนเราก็แก้ปัญหาของประชาชน ... ก็ตามระบอบประชาธิปไตยนะคะ ผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นก็เลยมองว่า การเลือกตั้งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในฐานะพลเมือง ถึงจะเป็นหนึ่งเสียงนะคะ แต่ก็ถ้ามองในจำนวนมาก ถ้าเกิดว่า ผลสะท้อนออกมาเป็นดีหรือว่าไม่ดีก็จะได้สะท้อนเสียงของประชาชนจริง ๆ”
แม้ในภาพรวมการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความราบรื่น แต่ก็ยังคงมีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดด้านเอกสารของข้อมูลผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งที่คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งจัดพิมพ์ออกมาที่อาจทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสับสนเข้าใจผิดได้
ในประเด็นนี้ เอกอัครราชทูตไทย อธิบายว่า ได้มีการตรวจพบปัญหาดังกล่าวตั้งแต่เนิ่น ๆ และดำเนินการแก้ไขพร้อมแจ้งให้ผู้มีสิทธิ์รับทราบแล้ว โดยระบุว่า “มันเป็นเรื่องของการจัดหน้าเอกสารนิดหน่อยนะครับ ก็อาจจะทำให้คาดเคลื่อนนิดหน่อยซึ่ง ฝ่ายกงสุลของเราได้แก้ไขทันที ส่งอีเมลการจัดหน้าที่ถูกต้องกลับไปที่ผู้ใช้สิทธิ์นะครับ เท่านั้นยังไม่พอ เราโทรหาผู้ใช้สิทธิ์ทุกท่านนะครับ ว่าให้เป็นตามนี้ เพราะฉะนั้นเราก็แก้ไขเรียบร้อยนะครับ”
ในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงทะเบียนกับสถานทูตไทยในกรุงวอชิงตันว่า ต้องการจะมากาบัตรและหย่อนบัตรเลือกตั้งด้วยตนเองที่สถานทูตไทยในกรุงวอชิงตันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 403 คน โดยหลังปิดคูหา ฝ่ายกงสุล ในฐานะกรรมการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร สรุปได้ว่า มีผู้เดินทางมาใช้สิทธิ์จริงเป็นจำนวน 262 คน
ทั้งนี้ ในเขตรับผิดชอบของสถานทูตไทยที่กรุงวอชิงตันมีจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งสิ้น 3,929 คน โดยผู้ที่เลือกจะส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์บางส่วนได้ส่งเอกสารกลับมาบางแล้ว และสถานทูตไทยก็ได้นำส่งกลับไปยังคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งที่ประเทศไทยแล้ว และจะเปิดรับซองที่มีบัตรลงคะแนนปิดผนึกจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคมตามเวลาในสหรัฐฯ เพื่อจะได้นำส่งต่อ ให้ทันกับการนับคะแนนในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งไปแล้ว ทุกคนล้วนตั้งความหวังการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่ดีขึ้นสำหรับประเทศไทย เช่น ติดตา บัวบุตร นักศึกษาไทยในสหรัฐฯ ที่กล่าวว่า “ก็คาดหวังว่า [การเลือกตั้ง]จะเป็นไปอย่างโปร่งใส หมายถึงว่า ตรวจสอบได้ ไม่ได้มีการต่าง ๆ ที่มันเคยเกิดขึ้นในอดีต ก็หวังว่า เลือกตั้งครั้งนี้จะกำหนดชะตาประเทศเราให้ไปทางที่ดีขึ้น”
- ที่มา: วีโอเอ