สืบเนื่องจากที่ ทางการอเมริกันประกาศเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมว่าชาวต่างชาติที่เรียนออนไลน์อย่างเดียว จะไม่สามารถรักษาสถานะวีซ่านักเรียนนักศึกษาในสหรัฐฯ ได้ คนไทยจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้
ในบรรดานักเรียนไทยหลายพันคนในสหรัฐฯ เปรมมิกา ชยพล วัย 17 ปี จากวิทยาลัยชุมชน เอ็ดมอนด์ คอลเลจ เมืองลินน์วู้ด รัฐวอชิงตัน อาจต้องเดินทางกลับไทยในช่วงสองเดือนนี้
นั่นเป็นเพราะเธอได้รับผลกระทบจาก การประกาศดังกล่าวของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ หรือ ICE ที่ห้ามให้นักเรียนต่างชาติที่ถือวีซ่า F-1 และ M-1 ที่ไม่มีวิชาเรียนในห้องเรียนช่วงเปิดภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อยู่ในสหรัฐฯได้อีกต่อไป
เปรมมิกาอยู่ที่สหรัฐฯ มาเกือบสามปีแล้วโดยถือวีซ่า F-1 มาโดยตลอด เธอยอมรับความเป็นจริงและเริ่มวางแผนเตรียมตัวกลับไทยโดยขอโควตากลับประเทศจากทางสถานทูตไทยแล้ว แม้เธอจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น “ไม่ยุติธรรม”
เปรมมิกาเสริมว่า สถาบันการศึกษาของเธอไม่ได้มีความพร้อมในการสอนแบบออนไลน์มากนัก เธอจึงรู้สึก “ไม่คุ้ม” หากต้องจ่ายค่าเทอมเท่าเดิมเพียงเพื่อเอาหนังสือกลับไปอ่านที่ไทย
เปรมมิกากล่าว ความจริงอยากมีชีวิตอยู่ที่นี่เลย แต่ดูเหมือนว่า นโยบายต่างๆไม่เอื้ออำนวยในเวลานี้
ข้อมูลจากโครงการ Open Doors ขององค์กร Institute of International Education ระบุว่า มีคนไทยเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาที่สหรัฐฯ จำนวน 6,503 เมื่อปีที่แล้ว ลดลง 2 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้านั้น
เช่นเดียวกับสถานศึกษาหลายแห่งในสหรัฐฯ เอ็ดมอนด์ คอลเลจ ที่เธอเรียนอยู่ ยังไม่ประกาศแนวทางที่ชัดเจนสำหรับนักเรียนต่างชาติ และยังคงศึกษาแนวทางปฏิบัติอยู่ โดยสถานศึกษาที่วางแผนจะเปิดสอนแบบออนไลน์เต็มรูปแบบจะต้องแจ้งแผนการสอนต่อโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือ SEVP ( Student and Exchange Visitor Program) ที่สังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ภายในวันที่ 15 ก.ค. ส่วนสถานศึกษาที่จะมีการเรียนการสอนในห้องเรียนด้วย จะต้องแจ้งภายในวันที่ 1 ส.ค.
อาจารย์ที่ปรึกษาของเปรมมิกาก็ยอมรับกับเธอว่า “รับประกันไม่ได้” ว่าวิทยาลัยจะกลับมาเปิดสถานที่ในภาคการศึกษาหน้าได้หรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัส และแนะนำว่าทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับเธอคือการกลับไปเรียนออนไลน์ที่ไทย
ทางด้านอรยา กลอยดี นักศึกษาชั้นปีที่สาม ภาควิชาผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยจอห์นสันแอนด์เวลส์ ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริดา ลงทะเบียนเรียนสำหรับภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงซึ่งจะเริ่มในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้เป็นแบบเข้าเรียนในชั้นเรียนไปแล้ว
อาจารย์ของเธอก็แจ้งมาเช่นกันว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าสุดท้ายทางมหาวิทยาลัยจะเปิดสอนแบบออนไลน์เช่นเดียวกับภาคการศึกษาที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรัฐฟลอริดายังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อรยาวัย 23 ปี กล่าวว่า เธอเสียค่าทำวีซ่ามา รวมทั้งตั้งใจมาแบบถูกกฎหมาย และได้จ่ายค่าเทอมไปแล้ว เธอจึงตั้งคำถามว่า สมควรแล้วเหรอที่จะต้องมาเจอกับเหตุการณ์นี้ เธออาจต้องจัดการกับรถของเธอ และอพาร์ทเมนท์ที่เธอเพิ่งต่อสัญญาเช่า 12 เดือน หากเธอต้องเดินทางกลับไทย
ทั้งเปรมมิกาและอรยายังมีความกังวลเหมือนกันด้วยว่า หากพวกเธอต้องกลับไทยและยื่นวีซ่าเข้าสหรัฐฯใหม่ ก็อาจขอยากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มของนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่มีโรคระบาดร้ายแรงเช่นนี้