“พอได้ข่าวตอนที่คนร้ายยิงครั้งแรก ยังไม่ได้ระวังอะไรเลย คิดว่ามันยังอยู่ไกล คงไม่ถึงเรามั๊ง อะไรประมาณนี้ แต่เหตุยิงรอบสอง เริ่มกลัวแล้ว น้องโทรมาบอกเลย ว่าตอนนี้เขา (คนร้าย) เข้าในเมืองแล้วนะ และยังจับตัว ไม่ได้เลย และเขามุ่งเป้าไปที่ร้านคนเอเชียส่วนใหญ่”
อรรจน์ แดนวงศ์ เจ้าของอาหารเคอรี เคอรี่ ไทย (Curry Curry Thai) ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เล่าถึงปฏิกิริยาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงที่เขาทราบข่าวว่ามีคนร้ายก่อเหตุยิงกราดร้านค้าและธุรกิจนวดสปา ซึ่งมีชาวเชื้อสายเอเชียตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตหลายคน เมื่อช่วงเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา
มีน้องโทรมาบอกว่า ตอนนี้คนร้ายมุ่งเป้าไปที่ร้านคนเอเชียนะพี่ ก็รู้สึกกลัว กลัวเลยล่ะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันจะมาออกที่เราหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขาจะลงมือแถวนี้ไหม ...อรรจน์ แดนวงศ์ คนไทยในนครแอตแลยตา รัฐจอร์เจีย
ร้านอาหารของ 'อรรจน์' อยู่ห่างจากย่านธุรกิจซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุในนครแอตแลนตา เพียงไม่กี่นาที ทำให้เขาตัดสินใจแจ้งลูกค้าและพนักงานเพื่อปิดประตูร้านในเกือบจะทันทีที่ทราบข่าวและให้พนักงานทุกคนกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย
“ร้านผมมีผู้หญิงเยอะ และผมไม่รู้ว่าถ้าเกิดคนร้ายเข้ามาจริงๆ ผมจะต้องเริ่มยังไง ผมจะยังไง จะวิ่งออกหลังร้าน แล้วคนที่เหลือจะทำยังไง ก็เราก็ play safe (ปลอดภัยไว้ก่อน) ปิดร้านหนีเลย ง่ายดี ไม่ต้องกังวลพนักงานจะเป็นยังไง ทุกคนถึงบ้านปลอดภัยก็ดีแล้ว”
อรรจน์ ซึ่งอาศัยในนครแอตแลนต้ามาราว 20 ปี เล่าถึง ลักษณะชุมชนโดยรอบบริเวณจุดที่เกิดเหตุกราดยิงทั้ง 2 แห่ง โดยจุดแรกเกิดขึ้นในร้าน 'ยังส์ เอเชียน สปา' ที่อยู่ทางตอนเหนือของนครแอตแลนตา ราว 60 กิโลเมตร เขตปกครองเชโรกี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 ราย
ขณะที่ในจุดที่สองนั้นเกิดเหตุในบริเวณร้านนวดสปา 2 แห่งในย่านธุรกิจใจกลางเมืองแอตแลนตา โดยในจุดนี้มีหญิงชาวเอเชียเสียชีวิต 4 ราย
“จุดเกิดเหตุจุดแรก จะเป็นย่านชาวอเมริกัน (ผิวขาว) ส่วนใหญ่ แต่จุดเกิดเหตุจุดที่สองจะเป็นย่านรวมๆกันคนหลากหลาย จะมีทั้งร้านจีน เกาหลี เวียดนาม ร้านฝรั่ง ร้านอิตาเลียน อยู่เยอะมากแถวนั้น ฝรั่งก็อยู่เยอะ ส่วนร้านไทย มีประมาณ 4-5 ร้านแถวนั้น แต่เท่าที่ทราบถ้าเป็นกิจการนวดของคนไทย หรือเจ้าของกิจการที่เป็นคนไทยเลย แถวนั้น ยังไม่มีครับ ยังไม่รู้เลยว่ามีเจ้าของกิจการหรือเปล่า ที่รู้คืออาจจะมีร้านนวดไทย แต่เจ้าของร้านคนไทย ยังไม่รู้”
เจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยในนครแอตแลนตาเปิดเผยกับ 'วีโอเอ ไทย' ว่า เท่าที่ตรวจสอบในกลุ่มชุมชนไทยที่อาศัยในนครแอตแลนตา ยังไม่มีชาวไทยที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงครั้งนี้
“ยังไม่เจอคนไทย ที่ได้รับบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากตรงนั้น แต่ผมก็เชื่อว่ากิจการร้านนวด สปา แบบนี้ ก็อาจจะต้องมีความกังวล เพราะว่านี่เกิดขึ้นครั้งที่สองที่เกิดเรื่องมีคนเข้ามายิง”
ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุการณ์กราดยิงในร้านนวดสัญชาติเกาหลีที่นครแอตแลนตามาแล้ว เมื่อปีคริสตศักราช 2012 หรือราว 9 ปีก่อน ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 5 ราย
ขณะที่เหตุกราดยิงครั้งล่าสุด เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวชาวเอเชียในสหรัฐอเมริกา ทำให้ ในฐานะผู้ประกอบการคนไทย ก็ได้ฝากเตือนให้ชาวไทยและเพื่อนผู้ประกอบการในนครแอตแลนตาระมัดระวังความปลอดภัยให้มากขึ้น แม้ทางการจะจับตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุครั้งนี้ได้แล้วก็ตาม
“ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ที่มีน้องโทรมาบอกว่า ตอนนี้คนร้ายมุ่งเป้าไปที่ร้านคนเอเชียนะพี่ ก็รู้สึกกลัว กลัวเลยล่ะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่ามันจะมาออกที่เราหรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขาจะลงมือแถวนี้ไหม แต่พอข่าวออกมา (จับคนร้ายได้ และให้การว่าไม่มีเหตุจูงใจจากความเกลียดคนเอเชีย) ก็โล่งใจขึ้น แต่อย่างที่บอกคือ เราทำธุรกิจร้านอาหาร ผมก็เชื่อว่าหลายๆคนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารเอเชีย ยิ่งเป็นช่วงนี้ ตกเป็นเป้าโจมตีอยู่ เจ้าของร้านหรือคนสูงอายุที่เป็นชาวเอเชียก็จะโดนอะไรแบบนี้บ่อยๆ แต่ว่าเราก็ต้องระวังอยู่พอสมควร”
ด้านเจ้าหน้าทีสถานเอกอัครราชทูตไทย กรุงวอชิงตัน ระบุว่าในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงในนครแอตแลนตา และประกาศเตือนคนไทยในรัฐจอร์เจีย และทั่วสหรัฐฯ ให้ระมัดระวังหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงอันตราย นอกจากนี้ยังประสานกงสุลใหญ่กิตติมาศักดิ์ที่นครแอตแลนตาให้ดูแลคนไทยอย่างเต็มที่และให้การช่วยเหลือทันทีหากมีเหตุไม่คาดฝัน นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูต จะเฝ้าติดตามสถานการณ์และติดต่อสอบถามกับชุมชนไทยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด