รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไทยกล่าวว่าจะไม่ส่งตัวนักเคลื่อนไหวกัมพูชาที่ถูกจับกุมในไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลับประเทศต้นทาง ด้านฮุน มาเนต ผู้นำกัมพูชา ขอบคุณที่ไทยช่วยป้องกัน “การแทรกแซงการเมืองภายในกัมพูชา” จากแผ่นดินไทย
คำขอบคุณของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกัมพูชา มีขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนประเทศไทย ในวันอังคารที่ผ่านมา และยังกล่าวด้วยว่า “สิ่งนี้ได้สร้างความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศของเรา”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุกับรอยเตอร์ว่า ผู้ถูกจับกุมทั้งสามจะถูกส่งไปยังประเทศอื่น แต่ไม่ถูกส่งตัวกลับกัมพูชา เขาระบุด้วยว่า ตอนนี้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ UNHCR กำลังดำเนินการส่งตัวไปยังประเทศที่สาม
“เราจะไม่ส่งตัวพวกเขาหรือครอบครัวของเขากลับกัมพูชา” รอง ผบ.ตร. กล่าว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับผู้นำกัมพูชาว่า ไทยจะไม่อนุญาตให้คนมาทำ “กิจกรรมที่เป็นอันตราย” ต่อประเทศเพื่อนบ้าน
ไทยและกัมพูชายังประกาศว่าจะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งมิจฉาชีพไซเบอร์ที่มีฐานปฏิบัติการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีอยู่ที่กัมพูชาจำนวนมาก
ภายใต้การครองอำนาจตลอดช่วงเวลาเกือบ 4 ทศวรรษของพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) นำโดยฮุน เซน บิดาของ ฮุน มาเนต กัมพูชามีการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาที่รวดเร็ว ท่ามกลางการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออก การสกัดกั้นฝ่ายค้านให้ขึ้นมามีอำนาจ รวมถึงการจับกุมคุมขังคู่แข่งทางการเมือง และการนำตัวคนเหล่านั้นกลับจากการลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
การขึ้นสู่อำนาจของ ฮุน มาเนต ที่สำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ และจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์ พอยต์ ในสหรัฐฯ เป็นที่จับตามองของชาติตะวันตกว่าจะดำเนินนโยบายที่เป็นเสรีนิยม และเปิดกว้างต่อการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นหรือไม่
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น