ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื้อสายไทยในอเมริกาจำนวนไม่น้อย ส่งเสียงสะท้อนถึงความกังวลในท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยังคงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหลังตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต และอาจทำให้เกิดความวุ่นวายในช่วงการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
หลายพื้นที่ในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เต็มไปด้วยเสียงบีบแตรทักทาย และผู้คนจากหลากหลายกลุ่มที่ออกมาร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะการเลือกตั้งของนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้รัฐส่วนใหญ่จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการไปแล้ว แต่ท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และกลุ่มผู้สนับสนุนต่างก็ออกมาแสดงการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และรวมตัวชุมนุมประท้วงในหลายรัฐ แต่สำหรับชาวลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตแล้วพวกเขาบอกว่านี่คือนาทีแห่งการเฉลิมฉลอง
ฟาโรห์ เสน่ห์ โกสุมมานนท์ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง และเจ้าของร้านทำผมชาวไทยในย่านไทยทาวน์ในนครลอส แอนเจลิส เป็นหนึ่งในกลุ่มใชาวไทยจำนวนหนึ่งที่ออกไปร่วมเฉลิมฉลองร่วมกับผู้คนหลายเชื้อชาติในย่านใจกลางเมือง ซึ่งเขาเชื่อมั่นว่านโยบายของว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่จะส่งผลดีต่อกลุ่มชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆในอเมริกามากขึ้น
ขณะที่ วลัยพรรณ เกษทอง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวไทย ที่อาศัยในย่านดาวน์ทาวน์ ลอส แอนเจลิส ยังคงสัมผัสได้ถึงความกังวลของกลุ่มผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจในย่านใจกลางเมือง กับความเป็นไปได้ที่อาจเกิดเหตุความวุ่นวายจากกลุ่มคนที่เห็นต่างทางการเมือง
เช่นเดียวกับความกังวลเกี่ยวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และอาจนำไปสู่การต่อสู้ หรือความรุนแรงครั้งใหม่ได้
ส่วนรัชนียา สาศรี ชาวไทยในนครลอส แอนเจลิส บอกว่า ยังคงกังวลกับผลการเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจนในขณะนี้ และอาจส่งผลต่อการทำธุรกิจร้านอาหารไทย จากความรุนแรงของการชุมนุมาที่อาจเกิดขึ้นเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ความไม่ชัดเจนของสถานการณ์ทางการเมืองคือความกังวลที่อยู่ในใจของหลายคนแต่ คุณวลัยพรและคนไทยในลอส แอนเจลิจำนวนหนึ่ง ก็ยังเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านอย่างสงบและสันติตามหลักการแห่งประชาธิปไตยที่เป็นรากฐานสหรัฐอเมริกามาเกือบ 300 ร้อยปี
สถานการณ์ในหลายรัฐยังคงสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า และการชุมนุมประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้ง รวมไปถึงการเดินหน้าฟ้องร้องต่อศาลเกี่ยวกับการนับคะแนนของทีมกฎหมายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งยังไม่ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ทำให้ทิศทางต่อจากนี้ยังเกินที่จะคาดเดาว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ จะสงบและสันติเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาหรือไม่