Lone Wolf Terrorism เป็นการก่อการร้าย โดยกระทำการคนเดียวและไม่รับคำสั่งจากขบวนการใดๆ โดยตรง
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในยุโรปและสหรัฐเตรียมตัวรับมือจากเหตุการณ์คนร้ายคลั่งศาสนาก่อการร้าย โดยกระทำการคนเดียวและไม่รับคำสั่งจากใคร อย่างที่ทำให้ทั่วโลกตระหนก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 22 ตุลาคมที่มือปืนบุกยิงในตึกรัฐสภาแคนาดาในกรุง Ottawa
ตามมาด้วยเหตุการณ์ชายมุสลิมหัวรุนแรงที่นครนิวยอร์คใช้ขวานจามตำรวจสองคน รายงานข่าวกล่าวว่าชายคนนี้หมกมุ่นกับการฆ่าตัดศีรษะชาวตะวันตกโดยนักรบกลุ่ม ISIS ในซีเรีย
ผู้สันทัดกรณีประเมินว่ามีชาวตะวันตก 3,000 คน ที่สนใจเข้าร่วมกับชาวมุสลิมหัวรุนแรงในสงครามศาสนา
Martin Reardon อดีตเจ้าหน้าที่ FBI กล่าวว่าหากคนเหล่านี้เพียงไม่กี่คนก่อการร้ายในบ้านเกิดของตน รัฐบาลประเทศต่างๆ จะเจอกับปัญหาที่น่ากังวลยิ่ง
นอกจากนั้น ผู้ที่มีอุดมการณ์สุดโต่ง ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างแยบยล ในการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง
สตรีชาวอังกฤษผู้หนึ่ง ที่แต่งงานกับนักรบคลั่งศาสนาในซีเรียเขียนลง Twitter ว่า If you cannot make it to the battlefield, then bring the battlefield to yourself ที่แปลได้ว่า หากใครไม่สามารถเข้าร่วมในสนามรบได้ก็ให้นำสนามรบมาสู่แผ่นดินที่ตนอยู่อาศัย
นักวิเคราะห์ที่สถาบัน Middle East Media Research Institute ที่ศึกษาการใช้ภาษาและเนื้อหาของคำแถลงของกลุ่ม ISIS กล่าวว่ากลุ่มหัวรุนแรงนี้ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอันดับหนึ่งเพื่อทำสงครามก่อการร้ายระดับโลก เพราะความประสงค์ของ ISIS ที่สำคัญที่สุดคือการตั้งรัฐอิสลาม
แต่ในช่วงที่สหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่ม ISIS ขบวนการดังกล่าวได้ถือโอกาสนี้เร่งเร้าให้มีการแก้แค้นต่อประเทศที่ร่วมปฏิบัติการนี้กับอเมริกา
วุฒิสมาชิก Diane Feinstein จากรัฐแคลิฟอร์เนียและประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า การเดินหมากในสงครามจิตวิทยาของ ISIS เริ่มเห็นผล เพราะเกิดการคลั่งศาสนาระดับบุคคลที่นำไปสู่ความรุนแรงในช่วงปีนี้หลายครั้ง
โปรดติดตามรายละเอียดจากคลิปเรื่องนี้ในรายการข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ
รายงานโดย Jamie Dettmer/เรียบเรียงโดย Rattaphol Onsanit