ในช่วงปีผ่านมา มีอุบัติเหตุเกี่ยวกับเครื่องบินหลายครั้ง ซึ่งทำให้มีการสูญเสีย โดยเฉพาะชีวิตผู้โดยสารและพนักงานเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน รวมจำนวนแล้วมากกว่าหนึ่งพันคน
คนทั่วไปจะไม่ทราบว่า เครื่องบินโดยสารที่บินข้ามมหาสมุทรห่างไกลจากพื้นดินนั้น ติดต่อกับหน่วยควบคุมจราจรทางอากาศบนพื้นดินไม่ได้ เพราะอยู่นอกข่ายระบบวิทยุและเรดาร์
การติดต่อระหว่างเครื่องบินกับหน่วยควบคุมจราจรทางอากาศต้องอาศัยระบบการสื่อสารและการเดินทางผ่านทางดาวเทียม อย่างเช่น โทรศัพท์ดาวเทียมและระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (GPS)
อาจารย์ Michael Braasch ซึ่งสอนวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย Ohio บอกว่า ที่ไม่มีอุปกรณ์อย่าง GPS ใช้อย่างแพร่หลายทั่วไปในการบินเป็นเพราะราคาแพง และว่าที่ไม่มีใครเต็มใจเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้บริการส่งข้อความผ่านทางดาวเทียมจนถึงขณะนี้ เพราะยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องติดตามเครื่องบินที่กำลังบินอยู่ทุกวินาที
กฎระเบียบการบินกำหนดให้นักบินรายงานพิกัดหรือตำแหน่งของตนเข้าไปที่หน่วยควบคุมจราจรทางอากาศ (Air Traffic Control หรือ ATC) เป็นระยะๆ อยู่แล้ว แต่ในสภาวะฉุกเฉินที่ต้องตัดสินใจภายในเสี้ยววินาที ไม่มีเวลาสำหรับการใช้โทรศัพท์ดาวเทียม
เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association) เสนอให้ติดตั้งระบบ GPS ให้กับเครื่องบินทุกลำ โดยไม่อยู่ในการควบคุมของนักบิน
อาจารย์ Michael Braasch บอกว่า สายการบินบางรายไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยังจะต้องทำความตกลงกันว่าจะใช้ระบบในรูปแบบและมาตรฐานที่ทุกคนเห็นด้วย แต่จริงๆ แล้วประเด็นทางเทคโนโลยีไม่เป็นปัญหาเพราะมีให้ใช้กันมากว่า 20 ปีแล้ว
มีนักบินบางคนที่เป็นห่วงกับการมีระบบไฟฟ้าที่นักบินปิดการใช้งานไม่ได้ในกรณีที่เกิดไฟไหม้บนเครื่องบิน ด้วยเหตุนี้จึงมีแต่กล่องดำ หรือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินเท่านั้น ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของนักบิน
แต่อาจารย์ Michael Braasch บอกว่า หลังจากที่เครื่องบินของสายการบิน Malaysia หายไปอย่างหาร่องรอยยังไม่ได้เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทำให้เห็นชัดว่า จะต้องหาทางแก้ปัญหาอย่างนั้นกันให้ได้
ในขณะนี้ สหรัฐและยุโรปกำลังเตรียมจะนำระบบที่เรียกว่า Automatic Dependent Surveillance – Broadcast หรือ ADS – B มาบังคับใช้ ระบบนี้ออกแบบมาให้แจ้งพิกัดหรือตำแหน่งของเครื่องบินให้หน่วยควบคุมจราจรทางอากาศ และเครื่องบินในบริเวณใกล้เคียงรับทราบเป็นระยะๆ
เครื่องบินบางส่วนในยุโรปจะต้องติดตั้งระบบนี้ภายในปี ค.ศ. 2017 หรือสองปีข้างหน้า ส่วนในสหรัฐภายในห้าปีข้างหน้า