หนึ่งในกำลังใจที่ยืนเคียงข้างพันโทหญิง ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เขตที่ 8 รัฐอิลลินอย มาตลอด คือ พ.ต.Bryan Bowlsbey ทหารกองทัพบกสหรัฐ ผู้เป็นสามีคู่ชีวิต ร่วมทุกร่วมสุขอยู่เคียงข้างมาตลอด 22 ปี
พ.ต.Bowlsbey เล่าว่า ในชีวิตนี้ไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนเลยในชีวิตนอกจากคุณแทมมีเท่านั้น เพราะคุณแทมมีมีอะไรที่น่าสนใจมากมาย เป็นผู้หญิงฉลาด แต่ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องราวของเธอที่เขาประทับใจนั้นเวลา 1 ชั่วโมงก็อาจจะยังไม่พอ สำหรับเขาแล้วทุกอย่างงดงามมากเมื่อได้ใช้ชีวิตกับคุณแทมมี
เขา กล่าวด้วยว่า ตลอดเวลา 18 เดือนในช่วงระหว่างการหาเสียง เขาและคุณแทมมี ไม่ค่อยมีโอกาสพบกันมากนักแต่ก็ให้กำลังใจกันเสมอ เพราะการที่มีงานรับผิดชอบที่กรุงวอชิงตัน หรือบางครั้งก็เดินทางไปที่แคนซัส ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันมากนักในช่วงการหาเสียง แต่จะพยายามบินกลับไปเยี่ยมคุณแทมมี ในทุกสุดสัปดาห์และให้กำลังใจเธอ แต่จะมีวิธีการให้กำลังใจที่แตกต่างออกไปจากสามีภรรยาทั่วไป เพราะทั้งคู่นั้นเป็นทหาร ดังนั้นจะพูดคุยกันแบบทหารที่ต้องกระตุ้นข้มแข็ง แม้ว่าจะทราบดีถึงภาระงานที่หนัก และเหนื่อย แต่เป็นสิ่งที่จะต้องก้าวผ่านไปให้ได้
ขณะที่ในด้านการใช้ชีวิตหลังได้รับเลือกตั้งว่าอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างออกไปนั้น คู่ชีวิตของว่าที่ ส.ส.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน บอกว่า การใช้ชีวิตไม่น่าจะเปลี่ยนไปมากนัก เพราะปกติคุณแทมมีเป็นคนทำงานหนัก และมุ่งมั่นในภารกิจที่ทำ โดยปกติจะตื่นเช้าไปทำงานตั้งแต่ตี 5 ทุกวัน และแน่นอนว่าลักษณะงานยังคงเป็นการทำงานการเมืองและเสียสละเพื่อสาธารณะในลักษณะเดิม
แต่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของทั้งสองคนที่เห็นได้ชัดๆคืดน่าจะมีได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น เพราะคุณแทมมีชีวิตต้องมาทำหน้าที่ในสภาคองเกรสคงในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี ขณะที่วันสุดสัปดาห์ก็น่าจะกลับไปทำงานในเขตเลือกตั้งที่เธอได้รับเลือก จะได้มีเวลาดูแลเธอมากขึ้น
พ.ต.Bryan Bowlsbey บอกด้วยว่า ขอขอบคุณชาวไทยและประเทศไทยที่สนับสนุนและเป็นประเทศที่คุณแทมมีใช้ชีวิตในวัยเด็กมาหลายปีและไม่เคยทราบมาก่อนที่จะพบกัน แต่เชื่อว่าการเคยใช้ชีวิตในเมืองไทย และการได้อยู่ในวัฒนธรรมของไทยมีส่วนทำให้เธอเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ และอาจจะเป็นความพิเศษบางอย่างที่คุณแทมมีได้ซึมซับวัฒนธรรมจากเมืองไทยจนทำให้เธอเป็นคนที่เข้มแข็งมากๆ
พ.ต.Bowlsbey เล่าว่า ในชีวิตนี้ไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อนเลยในชีวิตนอกจากคุณแทมมีเท่านั้น เพราะคุณแทมมีมีอะไรที่น่าสนใจมากมาย เป็นผู้หญิงฉลาด แต่ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องราวของเธอที่เขาประทับใจนั้นเวลา 1 ชั่วโมงก็อาจจะยังไม่พอ สำหรับเขาแล้วทุกอย่างงดงามมากเมื่อได้ใช้ชีวิตกับคุณแทมมี
เขา กล่าวด้วยว่า ตลอดเวลา 18 เดือนในช่วงระหว่างการหาเสียง เขาและคุณแทมมี ไม่ค่อยมีโอกาสพบกันมากนักแต่ก็ให้กำลังใจกันเสมอ เพราะการที่มีงานรับผิดชอบที่กรุงวอชิงตัน หรือบางครั้งก็เดินทางไปที่แคนซัส ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันมากนักในช่วงการหาเสียง แต่จะพยายามบินกลับไปเยี่ยมคุณแทมมี ในทุกสุดสัปดาห์และให้กำลังใจเธอ แต่จะมีวิธีการให้กำลังใจที่แตกต่างออกไปจากสามีภรรยาทั่วไป เพราะทั้งคู่นั้นเป็นทหาร ดังนั้นจะพูดคุยกันแบบทหารที่ต้องกระตุ้นข้มแข็ง แม้ว่าจะทราบดีถึงภาระงานที่หนัก และเหนื่อย แต่เป็นสิ่งที่จะต้องก้าวผ่านไปให้ได้
ขณะที่ในด้านการใช้ชีวิตหลังได้รับเลือกตั้งว่าอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างออกไปนั้น คู่ชีวิตของว่าที่ ส.ส.ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน บอกว่า การใช้ชีวิตไม่น่าจะเปลี่ยนไปมากนัก เพราะปกติคุณแทมมีเป็นคนทำงานหนัก และมุ่งมั่นในภารกิจที่ทำ โดยปกติจะตื่นเช้าไปทำงานตั้งแต่ตี 5 ทุกวัน และแน่นอนว่าลักษณะงานยังคงเป็นการทำงานการเมืองและเสียสละเพื่อสาธารณะในลักษณะเดิม
แต่ความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของทั้งสองคนที่เห็นได้ชัดๆคืดน่าจะมีได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น เพราะคุณแทมมีชีวิตต้องมาทำหน้าที่ในสภาคองเกรสคงในช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี ขณะที่วันสุดสัปดาห์ก็น่าจะกลับไปทำงานในเขตเลือกตั้งที่เธอได้รับเลือก จะได้มีเวลาดูแลเธอมากขึ้น
พ.ต.Bryan Bowlsbey บอกด้วยว่า ขอขอบคุณชาวไทยและประเทศไทยที่สนับสนุนและเป็นประเทศที่คุณแทมมีใช้ชีวิตในวัยเด็กมาหลายปีและไม่เคยทราบมาก่อนที่จะพบกัน แต่เชื่อว่าการเคยใช้ชีวิตในเมืองไทย และการได้อยู่ในวัฒนธรรมของไทยมีส่วนทำให้เธอเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้ และอาจจะเป็นความพิเศษบางอย่างที่คุณแทมมีได้ซึมซับวัฒนธรรมจากเมืองไทยจนทำให้เธอเป็นคนที่เข้มแข็งมากๆ