นักรณรงค์ทางการเมืองและผู้นำองค์กรด้านประชาธิปไตยราว 200 คนจาก 70 ประเทศ รวมทั้งจากอิหร่าน รัสเซีย และยูเครน เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอด World Movement for Democracy ที่กรุงไทเป ซึ่งเริ่มขึ้นวันอังคารนี้
ประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิง-เหวิน กล่าวเปิดการประชุมว่า ภัยคุกคามจากระบอบเผด็จการอำนาจนิยม ถือเป็น "เสียงปลุกนักประชาธิปไตยทั่วโลกให้ตื่นขึ้น"
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อสองวันก่อน ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เพิ่งผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 3 และแต่งตั้งบรรดาคนสนิทและผู้ที่จงรักภักดีให้อยู่ในคณะกรรมการสูงสุด หรือ โพลิตบูโร 7 คน
ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าวว่า "ชาวไต้หวันไม่เคยหลบหนีจากความท้าทายของการแทรกแซงโดยอำนาจนิยม... และจะต่อสู้กับพลังอำนาจใดก็ตามที่ต้องการบ่อนทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน"
ไรอัน ลอว์ หนึ่งในนักรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยผู้เคยถูกทางการฮ่องกงจับกุมตัว ซึ่งเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย กล่าวกับเอเอฟพีว่า การดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ของสี จิ้นผิง จะทำให้ทั่วโลกมีความมั่นคงน้อยลง และว่า "ระบอบเผด็จการแบบเอกบุรุษของสี จิ้นผิง" จะทำให้การคาดเดาทิศทางนโยบายของจีนทำได้ยากยิ่งขึ้น และผู้นำจีนผู้นี้จะมีบทบาทที่ไม่ต่างจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
"ผู้นำเหล่านี้จะให้ความสำคัญกับความทะเยอทะยานส่วนตัวมากกว่าความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหมายความว่าอาจมีการตัดสินใจที่สุ่มเสี่ยงและประมาทเพื่อคุกคามไต้หวันและทั่วโลกได้" ลอว์กล่าว
ทั้งนี้ สงครามในยูเครนก่อให้เกิดความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจพยายามยึดครองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนเช่นกัน และในขณะที่จีนยังคงมีท่าทีหนุนหลังรัสเซียในสงครามครั้งนี้ ไต้หวันก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าต่อต้านรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการร่วมประณามและใช้มาตรการลงโทษต่อรัสเซีย ตลอดจนส่งความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้แก่ยูเครนด้วย
- ที่มา: เอเอฟพี