งานศึกษาวิจัยชิ้นใหม่ในอังกฤษเปิดเผยว่า ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล รวมทั้งเสียชีวิต เพราะโควิด-19 มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
นักวิทยาศาสตร์ด้านการศึกษาพันธุกรรมของ UK Biobank ทำการสังเกตการณ์อาสาสมัครกว่า 420,000 ราย ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว และรวบรวมข้อมูลการรักษาอาการป่วยขั้นปฐมภูมิของแต่ละคน รวมทั้งผลการตรวจการติดเชื้อโควิด-19 ข้อมูลการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และมรณบัตร เพื่อหาข้อสรุปความเกี่ยวเนื่องของพฤติกรรมการสูบบุหรี่และอาการป่วยหนักเพราะโคโรนาไวรัส
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Thorax แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สูบบุหรี่อยู่เป็นประจำมีโอกาสสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ที่จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่มีความน่าจะเป็นที่จะเสียชีวิตเพราะโควิด-19 ด้วย
นอกจากนั้น งานวิจัยชิ้นนี้ยังชี้ว่า ผู้ที่มีความโน้มเอียงทางพันธุกรรมที่จะชอบสูบบุหรี่ มีความเสี่ยงติดเชื้อโคโรนาไวรัสสูงถึง 45 เปอร์เซ็นต์ และมีความเสี่ยงที่จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะอาการป่วยดังกล่าวสูงกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของสถานการณ์การระบาดในญี่ปุ่น รัฐบาลกรุงโตเกียวกำลังเตรียมที่จะยกเลิกมาตรการฉุกเฉินควบคุมการแพร่กระจายเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วประเทศตั้งแต่วันพฤหัสบดีเป็นต้นไป หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ญี่ปุ่นประกาศใช้มาตรการภาวะฉุกเฉินมาตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูง อันมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลจะดำเนินแผนบรรเทาการระบาดของโควิด-19 แทนที่มาตรการสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะรวมถึง การใช้พาสปอร์ตวัคซีน และการทดสอบการติดเชื้อ เป็นต้น
ข้อมูลจากศูนย์ Johns Hopkins Coronavirus Resource Center ระบุว่า ในเวลานี้ มีประชากรญี่ปุ่นราว 57 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2,000 คน ซึ่งต่ำกว่าสถิติเฉลี่ยวันละ 25,000 คนในช่วงที่การระบาดรุนแรงที่สุด