ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การเปลี่ยนแปลง 'วัฏจักรดวงจันทร์' อาจทำน้ำท่วมชายฝั่งสหรัฐฯ ทศวรรษหน้า


The full moon, known as the "Super Flower Moon" rises over the Temple of Poseidon in Cape Sounion, near Athens, Greece, May 26, 2021.
The full moon, known as the "Super Flower Moon" rises over the Temple of Poseidon in Cape Sounion, near Athens, Greece, May 26, 2021.

การศึกษาครั้งใหม่คาดการณ์ว่าวัฏจักรของดวงจันทร์ที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้เกิดน้ำท่วมสูงทั่วพื้นที่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ในช่วงกลางทศวรรษ ​​2030 หรืออีกราว 10 ปีข้างหน้า

Moon's Gravitational Pull Cycle
please wait

No media source currently available

0:00 0:03:36 0:00


การศึกษาครั้งใหม่อิงจากข้อมูลกระแสน้ำในมหาสมุทรที่รวบรวมจากพื้นที่ชายฝั่งทะเล 89 แห่ง ที่ครอบคลุมทุกรัฐและดินแดนของสหรัฐฯ ยกเว้น อะแลสกา ข้อมูลนี้ได้รับการตรวจสอบพร้อมกับการบันทึกภาวะน้ำท่วมและการคาดการณ์เรื่องการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลในอนาคตจนถึงปีค.ศ. 2080

ผลการวิจัยพบว่า ผลกระทบรวมของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นซึ่งเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของกระแสน้ำในมหาสมุทร จะนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมชายฝั่งที่เพิ่มขึ้น

การคาดการณ์ดังกล่าวปรากฎอยู่ในการศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของธรรมชาติ (Nature Climate Change ) การศึกษานี้นำโดยสมาชิกของทีมติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลขององค์การอวกาศสหรัฐฯ NASA

หัวหน้านักวิจัยของการศึกษานี้ คือ ฟิล ทอมป์สัน สมาชิกของทีมติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลและผู้อำนวยการศูนย์ระดับน้ำทะเลของมหาวิทยาลัย University of Hawaii เขาคาดว่าการเพิ่มขึ้นมากที่สุดของระดับน้ำทะเลจะเกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ซึ่งรวมไปถึงฮาวายและหมู่เกาะแปซิฟิกอื่นๆ

สำนักบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) กล่าวว่า ภาวะน้ำท่วมสูง คือการที่กระแสน้ำสูงตั้งแต่ 0.5 เมตรถึง 0.6 เมตรเหนือระดับน้ำเฉลี่ยรายวัน NOAA รายงานเหตุการณ์อุทกภัยประเภทนี้มากกว่า 600 เหตุการณ์ หรือที่เรียกว่าภาวะน้ำท่วมในวันที่แดดออก “Sunny Day Flooding" ในปี 2019 และคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะแย่ลงและนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมที่ยาวนานขึ้นเนื่องจากกระแสน้ำที่สูงขึ้นในอนาคตและระดับน้ำทะเลก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

เบน แฮมลิงตัน แห่งห้องปฏิบัติการ Jet Propulsion Laboratory ของ NASA ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเล และเป็นผู้ร่วมเขียนการศึกษานี้ กล่าวในแถลงการณ์ว่า การค้นพบนี้สามารถเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักวางแผนชายฝั่งของสหรัฐฯ ซึ่งอาจให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ นอกเหนือจากน้ำท่วม

ทั้งนี้ การคาดการณ์ว่าปรากฏการณ์น้ำขึ้นสูงจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2030 นั้น เชื่อมโยงกับรอบการโคจรของดวงจันทร์

NASA กล่าวว่า วัฏจักรซึ่งส่งผลต่อการที่โลกอยู่ในแนวเดียวกับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ จะเปลี่ยนแปลงแรงโน้มถ่วงของโลกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร และอธิบายว่า วัฏจักรที่ว่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำในวงโคจรของดวงจันทร์ซึ่งใช้เวลา 18.6 ปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยในช่วงครึ่งรอบของดวงจันทร์ จะทำให้ระดับน้ำขึ้นบนโลกต่ำกว่าปกติ และระดับน้ำลงจะสูงกว่าปกติ ส่วนในอีกครึ่งรอบของวัฏจักรดังกล่าว ระดับน้ำขึ้นจะสูงขึ้น และระดับน้ำลงจะต่ำลง

ปัจจุบัน NASA กล่าวว่า ดวงจันทร์อยู่ในวัฏจักรที่ทำให้กระแสน้ำขึ้นสูง และในขณะที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำท่วมสูงอยู่แล้ว แต่ระดับน้ำทะเลยังไม่สูงพอที่จะทำให้กระแสน้ำสูงขึ้นสู่ระดับน้ำท่วมสูงสุดตามปกติได้

แต่ครั้งต่อไปที่วัฏจักรนี้วนกลับมาอีกครั้งในช่วงกลางทศวรรษ 2030 ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะคงอยู่ในช่วงปีนั้น โดยระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นร่วมกับรอบดวงจันทร์ใหม่จะทำให้เกิดน้ำท่วมแบบฉับพลันรุนแรงบนแนวชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ฮาวาย และกวม ซึ่งอาจทำให้ผู้คนในพื้นที่เหล่านั้นต้องรับมือกับปัญหาน้ำท่วมกันทุกวันก็เป็นได้

XS
SM
MD
LG