ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงอีกครั้งในวันอังคาร ตามหลังตลาดหุ้นในเอเชียและยุโรปที่ร่วงลงไปก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ราคาน้ำมันดิบโลกตกลงไปอยู่ในแดนลบเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้
โดยดัชนีดาวน์โจนส์และ S&P 500 ปรับตัวลดลงกว่า 2% ขณะที่ดัชนีแนสแดคลดลงกว่า 3% ก่อนหน้านี้ดัชนีสำคัญ ๆ ในเอเชีย ปรับตัวลดลงในระดับ 1% - 2.5% ส่วนดัชนีในยุโรปลดลงในระดับใกล้เคียงกัน
เมื่อวันจันทร์ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประจำเดือนพฤษภาคมติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ติดลบ 40.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน
ความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างหนัก หลังจากผู้คนกว่าพันล้านคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
เมื่อเก้าวันที่แล้ว ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่น ๆ บรรลุข้อตกลงลดปริมาณการผลิตลงวันละ 9.7 ล้านบาร์เรล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ไปจนถึงเดือน มิ.ย. เพื่อดึงราคาน้ำมันดิบโลกที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา
แต่การที่ราคาน้ำมันดิบแบบซื้อขายล่วงหน้าลดลงไปอยู่ในแดนลบเช่นนี้ ทำให้กลุ่มโอเปก นำโดยซาอุฯ กำลังพิจารณาว่าอาจจะเริ่มใช้มาตรการลดการผลิตน้ำมันเร็วขึ้นก่อนวันที่ 1 พ.ค.