คุณ Mark Bressler เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์คนหนึ่งทำงานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเพื่อช่วยชีวิตลูกสิงโตทะเลที่หิวโหยและติดอยู่ตามชายหาดหลายร้อยตัว
เขากล่าวว่าทีมงานจะนำลูกสิงโตทะเลเฉลี่ยวันละ 10 ตัวกลับไปที่ศูนย์ทุกวัน
ด้านสัตวแพทย์ Todd Schmitt กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่านี่เทียบได้กับการกู้ภัยเหตุอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนนที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เขากล่าวว่าทีมงานต้องเลือกช่วยลูกสิงโตทะเลที่เห็นว่ามีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด
สัตวแพทย์ Todd Schmitt กล่าวว่าลูกสิงโตทะเลจะมีโอกาสรอดชีวิตถึง 70 เปอร์เซ็นต์หากถูกนำไปดูแลที่ SeaWorld San Diego ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์รักษาและดูแลลูกสิงโตทะเลให้แข็งแรงขึ้น
สัตวแพทย์ Schmitt อธิบายว่าเจ้าหน้าที่จะสอดหลอดลงไปในกระเพาะของลูกสิงโตทะเลวันละสามครั้งเพื่อให้ยาและอาหารเหลวจนกว่าลูกสิงโตทะเลจะสามารถกินอาหารได้เอง
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตลอดแนวชายฝั่งในรัฐแคลิฟอร์เนียพบว่ามีลูกสิงโตทะเลติดอยู่บนชายหาดเพราะหิวโหยและอ่อนแอจนว่ายน้ำไม่ไหวเป็นจำนวนมากอย่างไม่เคยพบมาก่อน มาถึงขณะนี้พบลูกสิงโตทะเลที่ติดตามชายหาดแล้วราวสองพันตัว ส่วนมากพบในทางใต้ของรัฐ มากกว่า 500 ตัวถูกนำไปรักษาที่ศูนย์ดูแลที่ SeaWorld San Diego แห่งนี้
สัตวแพทย์ Schmitt กล่าวว่าลูกสิงโตทะเลผอมมากจนเห็นกระดูกซี่โครงและขาดน้ำและอาหารรุนแรงเพราะไม่ได้กินอะไรมานานหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์
สัตวแพทย์ Schmitt กล่าวว่าลูกสิงโตทะเลเหล่านี้อายุราว 7 ถึง 8 เดือนแต่น้ำหนักตัวยังน้อยเท่ากับน้ำหนักตัวตอนคลอด ทั้งๆ ที่ควรจะหนักขึ้นสามเท่าตัวก็ตาม สัตวแพทย์ Schmitt กล่าวว่าลูกสิงโตทะเลกินทั้งก้อนหินและดินทรายเพราะอดอยาก
ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่าทางสำนักงาน National Oceanic and Atmospheric Administration สหรัฐหรือ NOAA ชี้ว่า จำนวนลูกสิงโตที่พบตามชายหาดในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์มากกว่าปกติถึง 20 เท่าตัว
บรรดานักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าทิศทางของลมทำให้น้ำในทะเลทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอุ่นขึ้น รวมทั้งในบริเวณ Channel Islands ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นแหล่งกำเนิดของลูกสิงโตทะเลเหล่านี้ กระแสน้ำอุ่นทำให้ปลาซาร์ดีน ปลาแอนโชวี่และปลาชนิดอื่นๆ ออกไปอยู่ไกลจากฝั่งมากขึ้น แม่สิงโตทะเลที่ออกล่าเหยื่อจึงต้องว่ายน้ำออกไปไกลในทะเลมากขึ้น คุณJustin Greenman แห่ง NOAA กล่าวว่านี่ทำให้แม่สิงโตทะเลต้องทิ้งลูกไปหาอาหารเป็นเวลานานขึ้นกว่าเดิม
เขากล่าวว่าเมื่อลูกสิงโตทะเลหิวโหย มันจะพยายามหาอาหารกินเอง ทำให้มีลูกสิงโตทะเลว่ายมาติดตามชายหาดมากขึ้นกว่าเดิม
ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังพยายามเฝ้าติดตามดูสภาพต่างๆ ทางทะเลทางชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือและติดตามดูปรากฏการณ์เอลนินโญ่ (El Nino) เพื่อดูผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาทั้งระบบ หากปรากฏการณ์เอลนินโญ่หนนี้รุนแรงกว่าเดิมและยาวนานไปจนถึงปลายปีนี้ ก็จะส่งผลให้น้ำทะเลในทางชายฝั่งตะวันตกอุ่นไปนานอีกหนึ่งปีและจะส่งผลกระทบต่อลูกสิงโตทะเลที่จะเกิดในปีหน้า
