ศรีลังกาสั่งห้ามเครื่องบินโดรนและอากาศยานไร้คนขับต่างๆ ขึ้นบินทั่วประเทศ รวมทั้งตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด สี่วันหลังเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายหลายจุดในกรุงโคลัมโบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 350 คน
ที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธในหลายประเทศ รวมทั้งกลุ่มรัฐอิสลาม นำโดรนขนาดเล็กมาใช้ในการขนส่งวัตถุระเบิดที่มุ่งเป้าโจมตีใส่กองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาล ตัวอย่างเช่น กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ที่ใช้โดรนบรรจุระเบิดโจมตีใส่ขบวนพาเหรดทหารเมื่อเดือนมกราคม ทำให้มีทหารเยเมนเสียชีวิตจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ตำรวจศรีลังกายังคงดำเนินการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย และได้ทำการระเบิดวัตถุต้องสงสัยบางส่วนไปแล้วที่เมืองปูโกดา ทางตะวันออกของกรุงโคลัมโบ
การโจมตีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 359 คน บาดเจ็บกว่า 500 คน ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติเสียชีวิตอย่างน้อย 36 คน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันพุธว่า ในกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตาย 9 คน มี 2 คนที่เป็นพี่น้องกันซึ่งมีพื้นเพมาจากครอบครัวมีฐานะมีการศึกษาดี และ 1 ในภรรยาของพวกเขาเข้าร่วมก่อเหตุด้วย
และพบว่าผู้ก่อเหตุอย่างน้อย 1 คน จบการศึกษาจากอังกฤษ และมีอีกคนที่กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในออสเตรเลีย
กลุ่มรัฐอิสลามออกมาอ้างความรับผิดชอบในการก่อเหตุครั้งนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลศรีลังกาจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีไปแล้ว 58 ราย
เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีศรีลังกา ไมตรีปาละ ศิริเสนา เรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจและรัฐมนตรีกลาโหมของศรีลังกาลาออก หลังจากผู้นำศรีลังกาได้แถลงข่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ว่าจะใช้มาตรการที่เข้มงวดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่รายงานข้อมูลที่ได้รับมาจากหน่วยข่าวกรองของอินเดีย ว่าจะมีการก่อเหตุระเบิดโจมตีโบสถ์และโรงแรมหรูในศรีลังกา จนนำไปสู่เหตุระเบิดรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์