การแข่งขันกีฬารายการใหญ่ที่สุดของเอเชียจบลงไปเมื่อวันเสาร์ ซึ่งมีเรื่องให้พูดถึงหลายอย่างทั้งแง่บวกและลบ
แง่บวกคืออนาคตที่สดใสของการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ในเอเชีย โดยเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 จากนั้นปี 2020 กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน และในปี 2022 กะต้าร์จะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ขณะที่จีนและคาซัคสถานกำลังแย่งชิงการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2022 เช่นกัน ชี้ให้เห็นว่าเอเชียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาของโลก
มีนักกีฬาเอเชียหลายคนที่ก้าวขึ้นสู่ระดับโลกหลังอินชอนเกมส์ เช่นนักว่ายน้ำชาวญี่ปุ่น Kosuke Hagino ที่ทำไปได้ 4 เหรียญทองจนได้รับเลือกเป็นนักกีฬายอดเยี่ยม และลมกรดชาวกะต้าร์เชื้อสายไนจีเรีย Femi Ogunode ผู้ทำลายสถิติวิ่ง 100 เมตรเอเชี่ยนเกมส์ด้วยเวลา 9.93 วินาที
ผลงานด้านบวกอีกอย่างหนึ่งคือ การที่มีผู้แทนเกาหลีเหนือเดินทางมาร่วมในพิธีปิดเมื่อวันเสาร์ จุดประกายความหวังของการผสานรอยร้าวของสองเกาหลี
ส่วนด้านลบก็มีผู้พูดถึงไม่แพ้กัน ตั้งแต่ปัญหาการตัดสินของกรรมการในกีฬาหลายประเภท ซึ่งทำให้มีคำร้องจากหลายประเทศให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและเจ้าภาพ
ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อทีมชาติซาอุฯ ถูกตำหนิที่ไม่ส่งนักกีฬาหญิงเข้าร่วมลงแข่งแม้แต่คนเดียว ขณะที่ทีมบาสฯหญิงกะต้าร์ประกาศถอนตัวหลังถูกสั่งห้ามสวมผ้าคลุมศีรษะลงแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ และการใช้สารกระตุ้น ตลอดจนการที่มีผู้ชมน้อยกว่าที่คาดไว้
สำหรับเอเชียนเกมส์ครั้งหน้าจะจัดที่อินโดนีเซียในปี ค.ศ 2018
รายงานจาก Reuters AFP และ Yahoo! / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล