‘วีโอเอ ไทย’ ใช้โอกาสในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของคณะผู้แทนจากหลายหน่วยงานของไทย ที่เข้าหารือด้านปัญหาการค้ามนุษย์กับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เมื่อช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา สอบถาม ถึงอิทธิพลของกลุ่ม ‘ทุนจีนสีเทา’ กับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีผลงานปราบปรามเครือข่ายอาชญากรกลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง
กวาดล้างอาชญากรข้ามชาติเชื้อสายจีน
“ในส่วนของคนเหล่านี้ เป็นทั้งอาชญากรข้ามชาติ เป็นทั้งยาเสพติด ‘กลุ่มจีนสีเทา’ นะครับ กลุ่มพวกนี้ถ้าทำคอลเซ็นเตอร์ ก็จะไปกัมพูชา แต่อย่างล่าสุด (ในไทย) ก็เข้ามาทำยาเสพติด เปิดสถานบริการบังหน้า เปิดผับบาร์บังหน้า แต่ข้างในขายยาเสพติด อันนี้ก็เป็นกลุ่มทุนจีน กลุ่มอาชญากรจีนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งได้มีการจับกุมไปแล้วก็มี นายตู้ ห่าว มีผับจิ้นหลิง ผับท็อปวัน คลับวัน รูปแบบจะเหมือนกัน”
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับ 'วีโอเอ ไทย' ยืนยันถึงความเกี่ยวพันของขบวนการอาชญากรข้ามชาติเชื้อสายจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย กับเครือข่ายค้ายาเสพติด และเครือข่ายการค้ามนุษย์ รวมทั้งขบวนการตบทรัพย์ออนไลน์ ในประเทศไทยและเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หารือสหรัฐฯ ชูความร่วมมือ ปราบค้ามนุษย์ในอาเซียน
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหนึ่งคณะผู้แทนไทยจากหลายหน่วยงานเดินทางเยือนสหรัฐฯเพื่อนำเสนอแลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานของไทยเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ ในระหว่างที่ทางการสหรัฐฯ กำลังจัดทำรายงานการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ หรือ ทิปรีพอร์ท ประจำปี เพื่อเตรียมเผยแพร่ในช่วงกลางปีนี้
“ สิ่งที่ผมหารือกับทางสหรัฐฯ ผมอยากได้เรื่องการเป็นหุ้นส่วนในการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพราะต้องอย่าลืมนะครับว่า ถ้าพูดถึงอาเซียน ผู้นำในด้านการปราบปรามการค้ามนุษย์ก็คือประเทศไทย ผมได้เรียนกับฝ่ายสหรัฐฯ และพูดกับทางผู้อำนวยการสำนักงาน ทิป ออฟฟิศ ( สนง.ติดตามและต่อต้านการค้ามนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา- TIP Office) ว่าวันนี้การแก้ปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์จะมองเป็นรายประเทศไม่ได้จะต้องมองเป็นภูมิภาค ..”
..เช่นวันนี้คนไทยถูกหลอกไปทำเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ที่กัมพูชา คนไทยถูกหลอกไปทำ Hybrid Scam (กลุ่มหลอกลวงลงทุน) ที่กัมพูชา มีทั้งสมัครใจและถูกหลอก ส่วนที่ถูกหลอกก็จะเข้าข่ายความผิดฐานทางมนุษย์ ล่าสุดเมื่อปีที่แล้วผมช่วยคนไทยกลับมาเนี่ยประมาณ 1,100 กว่าคน ซึ่งอันนี้ทางรัฐบาลสหรัฐฯเขาถามมากเลยว่า ไปช่วยยังไง ผมก็อธิบายให้ฟังว่าวิธีการช่วย เราสืบสวนยังไงนะ เราสืบสวนจากอินเตอร์เน็ตยังไง สืบสวนจากดิจิทัลอย่างไร ทำให้เรารู้ว่าในกัมพูชา คนไทยถูกกักขังอยู่ที่ไหนบ้าง โดยใช้ความร่วมมือผ่านแดนอย่างไม่เป็นทางการเข้าช่วยเหลือ และจับคนไทยในฝั่งไทยที่ร่วมกับคนจีนในกัมพูชาหลอกลวงคนไทย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวกับ วีโอเอ ไทย
เอาจริง เดินหน้าปราบทุจริตตำรวจ ตม. กว่า 100 นาย
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่าเครือข่ายอาชญากรชาวจีน มักใช้ศักยภาพทางการเงินเข้ามาลงทุนในธุรกิจรูปแบบต่างๆบังหน้า เพื่อแฝงตัวทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีคนไทยและเจ้าหน้าที่ไทยบางคนมีส่วนรู้เห็นและเอื้อผลประโยชน์
“คนจีนแบบนี้นะครับเข้ามา ก็จะใช้วิธีการเดียวกันก็คือเข้ามาแล้ว เปิดผับบาร์ แล้วใช้นอมินี (ตัวแทน) คือใช้คนไทยนี่แหละ คือต้องเรียนว่าถ้าคนไทย (บางส่วน) ไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่รัฐไม่คอร์รับชัน พวกนี้อยู่เมืองไทยไม่ได้นะครับ ..
.. ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมมีการดำเนินคดีกับตำรวจ ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) ตั้งแต่ยศ พลตำรวจโท ลงมา จนถึงจ่าสิบตำรวจ สิบตำรวจตรี รวมแล้วทั้งหมดประมาณ 110 กว่าคน!! ดำเนินคดีอาญา เรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา ในเรื่องการให้คนจีนเข้ามาทำวีซ่าเป็นนักเรียน วีซ่ามูลนิธิฯ
..ในส่วนของวีซ่านักเรียน เช่น บางคนอายุ 60 ปี แต่ทำวีซ่าเป็นนักเรียน ก็ไม่ได้เรียนจริง ไปทำวีซ่าที่ขอนแก่นแต่ตัวมาอยู่กรุงเทพฯ ก็เพื่อจะให้มีสิทธิ์ที่อยู่ในประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่สามารถประกอบอาชีพอะไรได้ อย่างดีที่ทำได้คือ ‘อาชญากรรม’ ก็ทำหลอกลวงลงทุน ทำยาเสพติด ค้ามนุษย์มันจะปนอยู่ทั้งหมด”
เปิดสมาคม ถ่ายภาพกับคนดัง กลลวงชวนลงทุน
เช่นเดียวกับการสร้างภาพลักษณ์ ด้วยการแฝงตัวเปิดสมาคมการกุศลบังหน้า เพื่อหลอกลวงชาวจีนในต่างประเทศ และคนไทยในประเทศมาร่วมลงทุน ก็เป็นอีกรูปแบบที่เครือข่ายอาชญากรกลุ่มนี้นำมาใช้
“ อีกประเภทหนึ่งก็คือเป็นกลุ่มคนจีนที่เข้ามาตั้งสมาคมฯ (การกุศล) นะครับ ถามว่าทำไมคนจีนชอบเปิดสมาคม (ก็เพราะ) ในประเทศจีน ใครเปิดสมาคมได้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่มีหน้ามีตา เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้ก็จะเดินทางมาประเทศไทย แล้วมาตั้งสมาคม พอตั้งสมาคมก็จะไปเชิญผู้ใหญ่มาถ่ายรูป รูปผมก็มี รูปท่านนายกฯ ก็มีนะครับ..
..ถ่ายรูปเพื่ออะไร? ก็เพื่อส่งไปต่างประเทศจีนนะว่า ตอนนี้มาเปิดสมาคมแล้ว เพื่อจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับอาชญากรจีน หลอกคนจีนเก็บเงินคนจีนที่มาก็บอกว่าจะต้องมีค่าใช้จ่าย บอกว่าเป็นค่าจัดการให้หมด เพราะฉะนั้นวันนี้เราได้มีการตรวจสอบมูลนิธิสมาคม..
..ล่าสุดก็มีการไปแต่งเครื่องแบบ คนเหล่านี้จะพยายามสร้างความเชื่อถือสร้างความเชื่อมั่นไปแต่งเครื่องแบบของข้าราชการแต่งยศเป็นนายพลทหารบกบ้าง แล้วก็ส่งภาพไปให้คนจีนดูมาดู เพื่อหลอกคนจีน แต่จริงแล้วไม่ใช่ เป็นเครื่องแบบปลอม เพื่อจะหลอกลวงลงทุน อันนี้เป็นรูปแบบหนึ่งคือหลอกลวงลงทุน ที่หลอกคนไทยต่างๆ บอกว่าจะมีการสร้างโรงแรม เสร็จแล้วก็เอาเงินหายไปเลย”
เดินหน้าตรวจนอมินี อาชญากร ย่านชาวจีน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ทางการไทยจะเร่งตรวจสอบเครือข่ายกลุ่มทุนและธุรกิจจีนผิดกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะในย่านห้วยขวางและรัชดาภิเษก ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายและมีชาวจีนอาศัยอย่างหนาแน่น
“..คือวันนี้ก็ระบาดทั้ง รัชดาฯ ห้วยขวาง ไปเยาวราช แล้วก็เชียงใหม่ ซึ่งวันนี้ผมเองก็ทำงานร่วมกับปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน ในการตรวจสอบหมู่บ้านต่างๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ในเรื่องของการปราบปรามผมก็ต้องเรียนว่า วันนี้(อาชญากรจีน) ก็หนีไปเยอะแล้วนะ ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์เนี่ยผมว่าเหลือไม่ถึง 20% นะครับ ส่วนนี้ก็ยังๆมีแฝงอยู่ เช่นใช้คนไทยเป็นนอมินี (ตัวแทน) บ้าง หรือ ใช้คนไทยเป็นนอมินี แต่คนไทยก็เป็นคนที่ราบสูง ที่มาสวมบัตรประชาชนอีกรูปแบบจะเป็นอย่างนี้หมด..
..ที่ห้วยขวาง ก็มีเป้าหมายที่จะตรวจสอบอยู่นะ เดี๋ยวผมกลับไปก็จะตรวจสอบ ไล่เอกซเรย์ทั้งหมดทั้งห้วยขวาง วิธีการตรวจสอบตรวจสอบไม่ยากนะครับ ถามว่าเรื่องตรวจสอบนอมินี เราดูได้เลยว่าสมมุติว่าร้านอาหาร ตอนนี้มีร้านอาหารในห้วยขวางเปิดเยอะ ร้านอาหารย่านรัชดาฯ เปิดใหญ่ๆเยอะ เราตรวจสอบ เราดูได้เลยว่า ผับบาร์ตรงนี้ ใครเป็นเจ้าของ สมมุติว่าชื่อนายเอ เป็นเจ้าของเราดูย้อนหลังว่าทางภาษี ว่านายเอ ก็เสียภาษีเท่าไหร่ แต่หากว่าปีที่แล้วทั้งปีเสียอยู่ 5,000 บาทและปีนี้กลับมาเป็นเจ้าของกิจการ 100 ล้าน อันนี้ นอมินี แน่ๆ ..
ย้ำ ปราบ ทุนจีนผิดกฎหมาย จนท.ต้องทำงานเข้มแข็ง
.. เพราะฉะนั้นวันนี้การตรวจสอบทำไม่ยากแต่สิ่งสำคัญคือความซื่อสัตย์ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดของเจ้าหน้าที่รัฐ การไม่คอร์รับชัน อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้การบังคับใช้กฎหมายในเรื่องของกลุ่มทุนจีนสีเทา เป็นสิ่งสำคัญ การใช้มาตรการตรวจสอบภาษี การใช้มาตรการดำเนินคดีความผิดทางอาญา ฟอกเงิน การยึดทรัพย์ การยึดโรงแรม ต่างๆเป็นต้น เพราะฉะนั้นขบวนการแบบนี้จะเขาไม่กล้าอยู่ในประเทศไทย แต่ถ้าสุดท้ายประเทศไทยเราอ่อนแอ เขาก็กลับมาใหม่เพราะฉะนั้นวันนี้การบังคับใช้กฎหมายจะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน และต้องเข้มแข็ง..." พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวกับ วีโอเอ ไทย