พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Musuem of Art แห่งมหานครนิวยอร์ก หรือที่รู้จักในชื่อ 'เม็ต' เตรียมคืนรูปปั้นโบราณจากไทย 2 ชิ้น และกัมพูชา 14 ชิ้น สู่ประทศต้นทาง ซึ่งวัตถุทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เหล่านี้โยงใยกับพ่อค้าของเก่ารายหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าค้าของที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย
พ่อค้าคนดังกล่าวชื่อดักกลาส แลตช์ฟอร์ด (Douglas Latchford) ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการสะสมของเก่า เขาถูกตั้งข้อหาเมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อถูกต้องสงสัยว่าดำเนินการอย่างเป็นระบบในการขายของเก่าจากกัมพูชาที่ถูกขโมยมาไปยังผู้ซื้อในต่างประเทศ
ชายผู้นี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ามีส่วนในการลักลอบซื้อขายวัตถุเหล่านั้นและเสียชีวิต 1 ปีหลังจากถูกตั้งข้อหา
ข่าวล่าสุดนี้เกิดขึ้นท่ามการความพยายามของพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในสหรัฐฯ และยุโรปในการหาแนวทางจัดการกับวัตถุที่ถูกขโมยมาจากเอเชีย แอฟริกาและส่วนอื่น ๆ ของโลก ในช่วงอาณานิคมและยุคแห่งความปั่นป่วน
พิพิธภัณฑ์ 'เม็ต' ให้ความร่วมมือกับสำนักการอัยการของนิวยอร์กที่เขตเเมนฮัตตัน และหน่วยงานสืบสวนของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ในการส่งคืนรูปปั้นโบราณ 13 ชิ้นที่โยงใยกับ แลตช์ฟอร์ด
ในเวลาต่อมา 'เม็ต' ทราบว่ายังมีรูปปั้นอีก 3 ชิ้นที่ต้องส่งคืนประเทศต้นทางเช่นกัน
ในบรรดาสิ่งของโบราณที่จะถูกส่งกลับ มีรูปปั้นโลหะบรอนซ์ ที่ชื่อ "The Bodhisattva Avalokiteshvara Seated in Royal Ease" ซึ่งอยู่ในยุคปลายศตวรรตที่ 10 ถึงต้นศตวรรตที่ 11 นอกจากนั้นยังมีเศียรของรูปปั้นพระพุทธเจ้าสมัยศตวรรษที่ 7 อีกด้วย
รูปปั้นทั้ง 2 ชิ้นนี้ อยู่ในบรรดาวัตถุโบราณ 10 ชิ้นที่ยังให้ผู้คนเข้าชมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ Metropolitan Musuem of Art ในนิวยอร์ก ขณะที่ยังอยู่ในขั้นเตรียมการส่งคืนประเทศต้นทาง
ครอบครัวแลตช์ฟอร์ดเคยมีเครื่องประดับโบราณอายุหลายร้อยปีจากกัมพูชาจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงมงกุฏ โดยได้ส่งของเหล่านั้นกลับไปยังกัมพูชาแล้ว
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น