ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘ไบเดน – มูน’ เตรียมหารือประเด็นเกาหลีเหนือ- วัคซีนโควิด ที่ทำเนียบขาวศุกร์นี้


South Korean President Moon Jae-in waves from the steps of his plane as he leaves for the United States at Seoul Air Base in Seongnam, south of Seoul, on May 19, 2021.
South Korean President Moon Jae-in waves from the steps of his plane as he leaves for the United States at Seoul Air Base in Seongnam, south of Seoul, on May 19, 2021.

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มูน แจ-อิน เตรียมพบหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ทำเนียบขาว ในวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคมนี้ ถือเป็นผู้นำประเทศคนที่สองต่อจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ได้พบปะแบบซึ่งหน้ากับประธานาธิบดีไบเดนหลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม

การหารือระหว่างผู้นำทั้งสองคนจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งจัดทำรายงานสรุปเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยจะมีการใช้แนวทางใหม่ที่ตรงเป้ามากกว่าเดิมและใช้ได้จริงในการรับมือเกาหลีเหนือ

ปธน.มูน กล่าวปราศรัยต่อประชาชนเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ในโอกาสครบรอบ 4 ปีการดำรงตำแหน่ง เรียกร้องให้การฟื้นฟูการเจรจาระหว่างสองเกาหลีขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมรับปากว่าตนจะทำทุกอย่างในช่วงเวลาที่เหลือเพื่อนำสันติภาพกลับมาสู่คาบสมุทรเกาหลี

คาดว่าการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีมูนครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่วาระการดำรงตำแหน่งของผู้นำเกาหลีใต้จะหมดลงในปีหน้า

อาจารย์คิม เฮือง-เคียว แห่งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอาโจอู ชี้ว่า แม้เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเรื่องนโยบายที่นำมาใช้กับเกาหลีเหนือ แต่การรักษาความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของสองประเทศนี้ยังคงเป็นภารกิจหลักอันดับแรกของไบเดนและมูน ซึ่งเชื่อว่าทางเกาหลีเหนือจะจับตามองการหารือของทั้งคู่อย่างใกล้ชิด และจะเป็นการส่งสัญญาณให้ทางกรุงเปียงยางรับทราบว่า เกาหลีใต้ยังคงเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สหรัฐฯ ต้องรับฟัง

นอกจากประเด็นเกาหลีเหนือแล้ว คาดว่าประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีมูน จะหารือเรื่องปัญหาการขาดแคลนวัคซีนโควิดในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้คะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีมูนลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความสำเร็จของการเจรจาระหว่างสองผู้นำในครั้งนี้จะถูกวัดด้วยความสามารถในการจัดหาวัคซีนโควิดกลับมายังเกาหลีใต้ ซึ่งต่างจากการวัดผลการประชุมครั้งที่ผ่าน ๆ มา

นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสสำคัญที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเจรจาเพื่อร่วมมือกันรับบทบาทนำในการพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีนในระดับโลกต่อไปในอนาคตด้วย

XS
SM
MD
LG