ผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมเกือบ 300 รายในเกาหลีใต้เข้าร่วมการประท้วงในวันพุธ เพื่อต่อต้านการดำเนินมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมของรัฐ พร้อมเรียกร้องให้มีการชดเชยรายได้ที่หดหาย และยกเลิกนโยบายวัคซีนพาส (vaccine pass) ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
รัฐบาลกรุงโซลประกาศบังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างในสัปดาห์นี้ หลังผ่อนคลายนโยบายนี้ไปเมื่อเดือนที่แล้ว แต่อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงรวมทั้งจำนวนผู้ป่วยหนักที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ มีปัญหา และทำให้รัฐบาลต้องหันกลับมาดำเนินมาตรการนี้อีกครั้ง แม้ว่า อัตราการฉีดวัคซีนในเกาหลีใต้จะสูงถึงกว่า 92% แล้วก็ตาม
นอกจาก การบังคับให้ประชาชนรักษาระยะห่างแล้ว รัฐบาลยังประกาศบังคับใช้กฎเคอร์ฟิวให้ร้านอาหารต่างๆ ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 21 นาฬิกาเป็นต้นไป และห้ามไม่ให้มีการรวมกลุ่มมากกว่า 4 คนหากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนที่ออกมาใช้บริการรับประทานอาหารต้องนั่งทานคนเดียว หรือสั่งกลับบ้าน หรือใช้บริการส่งถึงบ้านเท่านั้น โดยมาตรการทั้งหมดนี้จะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 2 มกราคม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี มูน แจ-อิน ได้ออกมาขอโทษทุกฝ่ายที่ต้องดำเนินมาตรการควบคุมการระบาดเข้มข้นอีกครั้งแล้ว
แต่การดำเนินมาตรการต่างๆ นี้ กลับมานำซึ่งแรงต้านจากเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมมากมายที่กลัวเกี่ยวกับความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะตามมา ขณะที่ยังพยายามรับมือกับภาวะขาดทุนและภาระหนี้สิ้นที่เกิดขึ้นในช่วงกว่าปีที่ผ่านมาอยู่
และแม้ว่ารัฐบาลจะนำเสนอการสนับสนุนทางการเงิน และนำเสนองบช่วยเหลือรายละ 1 ล้านวอน หรือประมาณ 838 ดอลลาร์ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อมจำนวนราว 3.2 ล้านรายที่ประสบปัญหาด้านการเงินเพราะวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ ผู้ที่ออกมาชุมนุมประท้วงในวันพุธกล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือเป็นเงินเพียงก้อนเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะช่วยธุรกิจของตนเลย
อย่างไรก็ดี การชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุดนี้เป็นไปอย่างสันติและอยู่ภายใต้กรอบการจำกัดผู้ชุมนุมไม่ให้เกิน 299 คนของรัฐบาล แม้ว่ารายงานข่าวจะระบุว่า มีเหตุปะทะกันบ้างเล็กน้อยระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างก็ตาม
ทางการเกาหลีใต้รายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 7,456 รายในวันอังคาร ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขรายวันสูงสุดเป็นประวัติการที่รายงานออกมาเมื่อเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ 7,850 ราย โดยตัวเลขผู้ป่วยสะสมนั้นได้เพิ่มขึ้นเป็น 583,065 ราย ที่รวมถึงผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจำนวน 234 รายด้วย ขณะที่ จำนวนสะสมของผู้เสียชีวิตจากโควิดในเกาหลีใต้นั้นอยู่ที่ 4,906 ราย