ประธานาธิบดีโอมาร์ อัล บาชีร์ ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำซูดานมาร่วม 30 ปี ถูกกองทัพซูดานยึดอำนาจและปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากประชาชนชาวซูดานออกมาประท้วงขับไล่มาร่วม 4 เดือน
นายอาวัด โมฮัมหมัด อาเหม็ด อิบนูฟ (Awad Mohamed Ahmed Ibn Auf) รัฐมนตรีกลาโหมซูดาน แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ว่ากองทัพซูดานได้โค่นอำนาจประธานาธิบดีอัล บาชีร์ พร้อมทั้งจับกุมนายอัล บาชีร์ไว้ในที่ปลอดภัย และประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนหลังจากโค่นอำนาจ และว่าซูดานจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านการปกครองโดยสภากองทัพไปอีก 2 ปี
ด้านแหล่งข่าวฝ่ายกองทัพซูดาน เปิดเผยกับวีโอเอว่า นายอัล บาชีร์ วัย 75 ปี ถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านมาก่อนแล้ว
หลังการโค่นอำนาจประธานาธิบดีอัล บาชีร์ ที่ครองอำนาจมาร่วม 30 ปี ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงแห่งซูดาน ในวันพฤหัสบดี เพื่อเฉลิมฉลองการพ้นจากอำนาจของผู้นำซูดาน แต่หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านแนวคิดการบริหารประเทศโดยสภากองทัพซูดานที่เข้ายึดอำนาจ
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ออกประกาศคำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวของพลเมืองอเมริกัน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ประท้วงในซูดานเพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอัล บาชีร์ เข้ามาปกครองซูดานผ่านการรัฐประหาร เมื่อปี พ.ศ. 2532 และปกครองประเทศมายาวนาน 30 ปี เขาเป็นที่ต้องการตัวของศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยข้อหาอาชญากรสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ประชาชนชาวซูดานออกมาประท้วงขับไล่นายอัล บาชีร์ ตั้งแต่ปลายปีก่อน เนื่องจากปัญหาราคาอาหารแพง ราคาน้ำมันพุ่งสูง และการขาดแคลนสกุลเงินต่างประเทศ
(เรียบเรียงรายงานจากผู้สื่อข่าว Naba Mohideen จากกรุงคาร์ทูม ซูดาน)