การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีธุรกิจบริการส่งของถึงบ้านเพิ่มมากขึ้น แต่บางบริษัทกำลังประสบปัญหาด้านการเงินในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอยู่ในขณะนี้
ปัจจุบัน มีบริการจัดส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์ถึงบ้านที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากร้านอาหาร ของชำ กาแฟ ยารักษาโรค หรือแทบจะทุกอย่างเลยก็ว่าได้
หลายๆ บริษัทเสนอการจัดส่งสินค้าทันใจภายใน 30 นาที ในขณะที่บางแห่งจัดส่งภายในเวลาเพียง 15 นาที ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นการจัดส่งสินค้าจากศูนย์จัดเก็บขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่จำนวนมาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่บริษัทเหล่านั้นจะสามารถทำกำไรได้ และเจ้าหน้าที่ของทางการตามเมืองต่างๆ ทั้งในสหรัฐฯ และในยุโรป เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุใดบางบริษัทจึงสามารถดำเนินการ และยังเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่ใช้กำกับดูแลธุรกิจของตนได้ด้วย
มาร์ค อันเดร คาเมล (Marc-Andre Kamel) หุ้นส่วนของบริษัทการลงทุน Bain ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ บอกกับเอพีว่า เขาคิดว่านักลงทุนบางคนจมปลักอยู่กับความนิยมในธุรกิจส่งของตามบ้านและการประเมินมูลค่ามหาศาลของบริษัท ทั้งที่บริษัทเหล่านี้ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ทำรายได้คุ้มทุนหรือถึงขั้นสร้างผลกำไรเลย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง บริษัทเหล่านั้นจะต้องหาทางทำกำไรให้บริษัทของตน
ที่น่าสนใจคือตอนนี้ มีบางบริษัทที่ได้ปิดตัวลงแล้ว เช่น บริษัทสตาร์ทอัพ 1520 ปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนธันวาคม นอกจากนี้ยังมี Buyk และ Fridge No More ที่ปิดไปเมื่อเดือนมีนาคม โดยมีรายงานว่าผู้ก่อตั้ง Buyk ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ไม่สามารถจัดหาเงินทุนได้เนื่องจากมีข้อจำกัดมากมาย จากกรณีรัสเซียบุกยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทางด้านบริษัท Fridge No More ได้ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Twitter ว่า บริษัทได้ปิดตัวลงหลังจากที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลาสองปี เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้นและปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้
ส่วนบริษัทจัดส่งสินค้าอื่นๆ กำลังประสบปัญหามากขึ้น เช่น Gorillas ตัดสินใจยกเลิกการโฆษณาที่ระบุว่าจัดส่งภายใน 10 นาที แต่เปลี่ยนเป็นจัดส่งในไม่กี่นาทีแทน และ Gopuff ได้เลิกจ้างพนักงานมากกว่า 400 คน
ระหว่างที่บรรดาบริษัทที่มีขนาดเล็กๆ ยังต้องเผชิญกับปัญหาในเรื่องของการแข่งขันทางการตลาด เนื่องจากมีบริษัทจัดส่งรายใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น DoorDash, Grubhub, Uber และ Instacart เป็นต้น
เล็น เชอร์แมน (Len Sherman) อาจารย์ด้านธุรกิจที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก กล่าวว่า หลายๆ บริษัทไม่ได้มีรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืน และคาดว่าต่อไปจะต้องมีการควบรวมกิจการของบริษัทต่างๆ เกิดขึ้นมากมายอย่างแน่นอน
แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสสำหรับบางบริษัท อย่างกรณีของ Getir บริการจัดส่งของสัญชาติตุรกีที่ดำเนินธุรกิจในยุโรป และที่นครบอสตัน ชิคาโก และมหานครนิวยอร์ก มองเห็นเส้นทางสู่การทำกำไรด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บตามเมืองต่างๆ ที่บริษัทเปิดให้บริการ
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ Getir สามารถทำเงินได้ 768 ล้านดอลลาร์ ผลักดันให้บริษัทนี้มีมูลค่าเกือบ 12,000 ล้านดอลลาร์ และทางบริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจเพิ่มเติมในสหรัฐฯ อีกด้วย
ขณะที่ ลี เน็ททินคา (Lee Hnetinka) ผู้ก่อตั้ง FastAF บริษัทจัดส่งสินค้าที่มีรูปแบบการจัดส่งโดยใช้เวลาสองชั่วโมงในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และลอสแองเจลิส บอกกับเอพีว่า สำหรับบริษัทของเขา การทำกำไรไม่ได้มีความสำคัญในตอนนี้ แต่เขาสนใจที่จะลงทุนในการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้ามากกว่า และเขาได้ทิ้งท้ายด้วยการยกตัวอย่างบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Amazon ว่าเป็นบริษัทที่เติบโตยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ทั้งที่ไม่ได้ทำกำไรในตอนแรกด้วยเช่นเดียวกัน
- ที่มา: เอพี