การเข้าร้านขายยาในปี 2023 อาจเป็นเพราะว่ามีอาการป่วยและต้องการซื้อยา แต่ถ้าหากเป็นเมื่อ 100 ปีก่อน ผู้คนอาจไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้อยา และยังซื้อเครื่องดื่มน้ำอัดลมจากตู้กด หรืออาจจะทานข้าวเที่ยงระหว่างที่รอรับยาได้อีกด้วย
ธุรกิจเหล่านี้เรียกว่า Soda Fountains หรือตู้กดน้ำอัดลม ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 แต่ในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา ร้าน Soda Fountains ส่วนใหญ่ปิดตัวลง แต่ก็ยังพอมีร้านที่มีตู้กดน้ำอัดลมเหลืออยู่สองสามแห่ง โดยแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองเคโนวา รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เป็นร้านขายยาที่มีชื่อว่า “Griffith and Fiel Drug” ซึ่งเปิดกิจการมา 131 ปีแล้ว
ริค กริฟฟิธ (Ric Griffith) เป็นเจ้าของร้าน Soda Fountain แห่งนี้ เขาพยายามที่จะรักษาสิ่งที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยอธิบายว่าร้าน Soda Fountain ไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับทานอาหารกลางวันเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่ผู้คนได้นั่งพูดคุย แบ่งปันเรื่องราว เพราะการที่มีตู้กดน้ำอัดลมอยู่ในร้านขายยา ทำให้ลูกค้านั่งในร้านได้นานขึ้น
ทั้งกริฟฟิธ และไฮดี้ ลูกสาวของเขาเป็นเภสัชกร พนักงานร้านขายยาของพวกเขาจะทำงานอยู่ด้านหลังร้าน ส่วนด้านหน้าจะเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่มจากตู้กดน้ำอัดลม โดยร้านอาหารจะให้บริการทั้งอาหารกลางวันและอาหารเย็นเป็นประจำทุกวัน
ผู้คนที่ไปที่ร้านขายยา “Griffith and Fiel Drug” ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อทานอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่พวกเขายังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศย้อนยุค โดยมีตู้เพลงที่เล่นเพลงได้ ป้ายไฟนีออนสีชมพู เก้าอี้วินเทจ เพดานที่ทำด้วยโลหะ และมีรูปภาพสีขาวดำแขวนอยู่ตามผนังอีกด้วย
ทั้งนี้ เครื่องดื่มอัดลมเป็นที่นิยมในช่วงปีคริสต์ศักราช 1800 ต่อมาเครื่องดื่มที่ผสมกรดฟอสเฟตซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้รับการพัฒนาในภายหลัง โดยเภสัชกรจะผสมกรดฟอสเฟตลงในเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่ต้องการการรักษา ซึ่งเป็นเหตุผลที่มักจะพบตู้กดน้ำอัดลมในร้านขายยาในสมัยนั้น
เมื่อมีการพัฒนาตู้กดน้ำอัดลมให้ดีขึ้น สูตรและรสชาติของน้ำอัดลมก็ดีขึ้นตามไปด้วย จากนั้นจึงเพิ่มตัวเลือกอาหาร เพื่อให้ลูกค้าสามารถทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มอัดลมในขณะที่รอรับยาได้
ในช่วงปลายทศวรรษ 1950 ร้านขายยาขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการโดยครอบครัวหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ โดยตู้กดน้ำอัดลมถูกแทนที่ด้วยชั้นวางอาหารและของใช้ในบ้าน เนื่องจากกฎระเบียบของรัฐบาลที่เข้มงวดขึ้น และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและร้านขายยาขนาดใหญ่ก็กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในตอนนั้น
บรรดาร้านขายยาที่มีตู้กดน้ำอัดลมไม่สามารถให้บริการต่อได้และหลายแห่งต้องปิดเป็นการถาวร
บางแห่งเปิดเป็นร้านไอศครีมหรือร้านขายของที่ระลึก และบางรายปิดกิจการทั้งฝั่งร้านน้ำอัดลมและฝั่งร้านขายยาด้วย
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ร้านขายยาที่มีตู้กดน้ำอัดลมที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศหลาย ๆ แห่ง เช่น The Highland Park Soda Fountain ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส และ The Central Drug Store ในเมืองเบซซาเมอร์ ซิตี้ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้ปิดตัวลง
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็มีการกลับมาของร้านขายยาพร้อม Soda Fountain เช่นกัน
ริค กริฟฟิธ ไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับร้านขายยาพร้อมตู้กดน้ำอัดลมดั้งเดิมของคุณพ่อเลย เพราะมันถูกถอดออกไปตั้งแต่อปี 1957 ตอนที่เขาอายุเพียง 9 ขวบ และในปี 2004 เขาได้ติดตั้งตู้กดน้ำอัดลมในร้านขายยาของเขาเอง
หลังจากที่เขาเปิดร้านขายยากับ Soda Fountain อีกครั้ง เขาก็นึกถึงชายคนหนึ่งที่มักมานั่งที่บูธตัวเดิมพร้อมกับหลานสาวหลังเลิกเรียน โดยเขาจะสั่งเชอร์รี่โค้ก และมักจะเล่าถึงเรื่องราวชีวิตในวัยหนุ่มของเขาให้ฟัง
กริฟฟิธรู้สึกดี ที่ได้มีสถานที่ให้ผู้คนได้นั่งรอบ ๆ Soda Fountain และร่วมแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ แทนที่จะนั่งทานอาหารจานด่วนเพียงอย่างเดียว เขากล่าวส่งท้ายว่า การที่จะอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แค่การอนุรักษ์วัตถุ แต่ยังเป็นการรักษารูปแบบการใช้ชีวิต และวิธีการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้คน และการมีตู้กดน้ำอัดลมในร้านขายยาก็มีส่วนช่วยในเรื่องนี้
- ที่มา: เอพี