ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าเทคโนโลยีที่ห้อยท้ายว่าอัจฉริยะมักจะได้รับความนิยม เว้นเสียแต่ “แว่นตาอัจฉริยะ” ที่ไปปรากฏอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งความล้มเหลว ตั้งแต่ยังไม่ทันได้วางขายอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด 2 บริษัทด้านเทคโนโลยียังไม่หยุดที่จะพัฒนาแว่นตาเหล่านี้ โดยผนึกกำลังกับเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ VR เพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงยอดขายผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีกลับมาอีกครั้ง
แว่นตารุ่นแรก ภายนอกดูเหมือนกับแว่นตากันแดดแบบสปอร์ตหน้าตาธรรมดา แต่จริงๆแล้วนี่คือทายาทของแว่นตาอัจฉริยะ Google Glass กับกล้อง GoPro ที่มีชื่อว่า ORBI Prime ผลิตโดยบริษัท Orbi ซึ่งเป็นโครงการระดมทุนในเว็บไซต์ Indiegogo
ความพิเศษของแว่นตา ORBI Prime คือ กล้อง 4 ตัวรอบกรอบแว่น ด้านหน้า 2 ตัว และตรงขาแว่นทั้ง 2 ข้าง สามารถถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอแบบ 360 องศา ด้วยความคมชัดระดับ 4K และยังพ่วง Wi-Fi ให้คุณสามารถถ่ายและแชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ได้ทันใจ หรือจะเก็บไว้ตัดต่อเป็นคลิปวิดีโอใน SD Card ได้เช่นกัน นอกจากนี้แว่นตายังกันน้ำกันเหงื่อ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมผาดโผน
อาดิล ซูรันชิน ทีมงานของ Orbi อธิบายว่า ORBI Prime จะทำให้คุณถ่ายภาพและคลิปวิดีโอโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์มากมาย โดยกล้องแต่ละตัวบนแว่นจะมีระยะถ่ายภาพ 180 องศา ซึ่งทั้ง 4 ตัวรวมกันจะครอบคลุมการถ่ายภาพและวิดีโอแบบ immersive ได้ดีเยี่ยม
ส่วนเรื่องความเป็นส่วนตัวที่หลายคนกังวล ORBI Prime จะปรากฏไฟ LED เมื่อมีการถ่ายวิดีโอ เพื่อส่งสัญญาณให้คนรอบข้างทราบว่ามีการถ่ายวิดีโอเกิดขึ้น
ใครสนใจอยากได้มาครอบครอง ก็จับจองกันได้ ที่ราคา 399 ดอลลาร์ หรือราว 12,000 บาท และจะเริ่มทยอยส่งล็อตแรกในเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนแว่นตาอีกรุ่นเกาะกระแสเทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ VR อีกเช่นกัน แต่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี VR ที่สัมผัสจับต้องบนโลกเสมือนจริงได้ โดยแว่นตา VR รุ่นนี้มีชื่อว่า Go Touch VR ซึ่งตั้งตามชื่อของบริษัทสัญชาติฝรั่งเศสที่คิดค้นแว่นตา VR ที่เพิ่มการสัมผัสเข้าไป เพื่อทลายข้อจำกัดของ VR ที่ไม่สามารถจับต้องได้ออกไป
หลักการ คือ ตัวแว่นตา VR ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่คล้ายกับเครื่องตรวจชีพจร ซึ่งจะต้องติดบนนิ้วของผู้สวมใส่แว่นตา VR ที่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง ทำหน้าที่ส่งผ่านแรงสัมผัสที่เกิดขึ้นบนโลกเสมือนจริงให้ผู้สวมใส่สามารถรู้สึกถึงแรงสัมผัสได้
เอริค เวซโซลี่ ผู้ก่อตั้ง Go Touch VR เชื่อมั่นว่า อุปกรณ์ของเขาจะเป็นใบเบิกทางสำหรับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยบนโลกเสมือนจริง ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนในหลายสาขาอาชีพที่มีความเสี่ยงหรืออันตรายถึงชีวิต เช่น การฝึกผ่าตัดกับคนไข้บนโลกเสมือนจริง หรือการฝึกฝนในกองทัพ หรือจะใช้ในการโฆษณา เช่น การเข้าชมห้องตัวอย่างเสมือนจริง ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าลองเปิดตู้เก็บของ สัมผัสเตียงนุ่มๆในห้องพัก เพื่อเพิ่มยอดขายได้ดี