ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความหวังมากขึ้นว่าจะค้นพบมนุษย์ต่างดาวได้จริง


ภาพยนตร์ยอดนิยม E.T. the Extraterrestrials หยอกล้อจินตนาการของมนุษย์เราในเรื่องมนุษย์ต่างดาวอย่างไม่ลดละ ในขณะที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ให้เครื่องมือและความหวังกับนักวิทยาศาสตร์มากขึ้นว่า ข้างนอกโลกนั้น มีคนหรือมนุษย์ต่างดาวที่อยากจะติดต่อกับมนุษย์ในโลก และความคิดฝันที่ว่านี้จะเป็นความจริงขึ้นมาได้สักวันหนึ่งเครื่องมือสำหรับใช้ในการค้นหา E.T. หรือมนุษย์ต่างดาวสมัยนี้ คือกล้องโทรทรรศน์ หรือกล้องส่องทางไกลที่ทั้งรับฟังและจับตาดู เรียกว่าเป็นทั้งหูและตา

ศาสตราจารย์ Michael Liu นักดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Hawaii ที่เกาะ Honolulu บอกว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ให้สมรรถนะใหม่ที่เรียกว่า adaptive optics แก่กล้องโทรทรรศน์ ซึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์วัดความสั่นเสทือนของบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกได้ในเวลาจริง และชดเชยกับมุมหักเหในภาพได้

นอกจากนี้ ภาพดวงดาวที่กล้องถ่ายทอดให้ดู ยังมีความคมชัดเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าสิบเท่าตัวด้วย
ตามความเป็นจริงแล้ว นักวิทยาศาสตร์มองไม่เห็นดาวเคราะห์ห่างไกลเหล่านั้น หากแต่สามารถคำนวณที่อยู่ของดวงดาวเหล่านั้น ด้วยการวัดแรงดึงดูดกับดวงดาวที่ดาวเคราะห์โคจรอยู่รอบๆ
นอกจากนี้ ยังตรวจวัดความร้อนที่ดาวเคราะห์เกิดใหม่ส่งออกมา ซึ่งเป็นเบาะแสสำหรับการวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพของดาวเคราะห์ดังกล่าวว่า ใหญ่โตแค่ไหน ส่งพลังงานออกมาได้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งสารประกอบของดาวเคราะห์นั้นด้วย

ศจ. Michael Liu บอกว่า หลักฐานทุกชิ้นที่ได้มาทุกวันนี้ ชี้แนะว่า ระบบดาวเคราะห์ ซึ่งมีดาวเคราะห์โคจรรอบดวงดาวนั้น มีทั่วไป และเชื่อว่า นักวิทยาศาสตร์ใกล้จะค้นพบดาวเคราะห์อื่นๆที่เหมือนกับโลก และโคจรอยู่รอบๆดาว ซึ่งเหมือนกับดวงอาทิตย์ด้วย

ส่วนกล้องโทรทรรศน์ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้รับฟัง ก็คือจานหรือเสาอากาศรับคลื่นวิทยุจากอวกาศ ศจ. Alan Penny แห่งมหาวิทยาลัย St. Andrews ใน Scotland และประธานกลุ่มค้นหามนุษย์ต่างดาวของอังกฤษ (United Kingdom's Search for Extraterrestrials Group หรือตัวย่อ UKSETI) บอกว่า กุญแจสำคัญที่แยกเสียงและสัญญาณธรรมชาติจากสัญญาณของสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญา คือโครงสร้างของสัญญาณ

นักดาราศาสตร์ของอังกฤษผู้นี้บอกว่า สัญญาณที่มีโครงสร้างจะไม่มาจากแห่งธรรมชาติ ดวงดาว หรือ Quasar ซึ่งเป็นกลุ่มวัตถุที่ส่งแสง เพราะฉนั้นเวลาถ่ายภาพท้องฟ้า ก็ให้มองดูสี ถ้ามีแถบสีคมชัด นั่นก็คือแถบสีที่สร้างขึ้นมาด้วยการใช้ภูมิปัญญา

ศจ. Alan Penny แห่งมหาวิทยาลัย St. Andrews ใน Scotland บอกไว้ด้วยว่า บริเวณที่ควรส่องกล้องค้นหา คือบริเวณที่มีดาวเคราะห์โคจรรอบดวงดาว เพราะถ้ามีมนุษย์ต่างดาวอยู่ที่นั่น ก็จะมีสัญญาณคลื่นวิทยุส่งออกมาให้รับฟังกันได้อย่างแน่นอน และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก็ได้เห็นดาวเคราะห์โคจรอยู่รอบๆดวงดาวไม่ไกลจากโลกด้วย

UKSETI มีแผนจะเชื่อมโยงกล้องโทรทรรศน์รับคลื่นวิทยุทั่วประเทศอังกฤษเข้าด้วยกันเพื่อค้นหา E.T.
XS
SM
MD
LG