ชาวสก็อตจะไปลงคะแนนเสียงแสดงประชามติว่าจะแยก Scotland ออกมาเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร หรือไม่ในสัปดาห์หน้า ผลการสำรวจความเห็นของประชาชนชาว Scot บ่งชี้ว่าคะแนนเสียงระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนกับฝ่ายที่คัดค้าน คู่คี่กันมาก
นักการเมืองจากลอนดอนหลายคนขึ้นไปช่วยรณรงค์หาเสียงต่อต้านการแยกตัว รวมทั้งนายกรัฐมนตรี David Cameron ที่ไปกล่าวปราศัย ย้ำว่าส่วนอื่นๆ ของสหราชอาณาจักรไม่อยากเห็น Scotland แยกตัวออกไป
นายกรัฐมนตรี Cameron ของอังกฤษเป็นผู้ให้ความเห็นชอบกับการลงคะแนนเสียงแสดงประชามตินี้เมื่อสองปีที่แล้ว
แม้ Scotland จะมีรัฐสภาของตนเอง แต่มีอำนาจจำกัดในการเพิ่มอัตราภาษี และลอนดอนเป็นผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจและการต่างประเทศ
ประเด็นสำคัญอันหนึ่งที่พูดถึงกันในการพิจารณาว่า Scotland ควรแยกตัวออกไปหรือไม่ คือประเด็นทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องน้ำมัน
คาดกันว่า ราวๆ 90% ของบ่อน้ำมันของสหราชอาณาจักรอยู่ในบริเวณน่านน้ำของ Scotland รัฐบาลของ Scotland ประมาณว่าน่าจะมีน้ำมันเหลืออยู่อีกราวๆ 2 หมื่น 4 พันล้านบาเรล แต่รัฐบาลอังกฤษให้ตัวเลขไว้ราวๆ 1 หมื่น 5 พันล้านบาเรล
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะคาดคะเนรายได้จากการเก็บภาษีน้ำมันที่ตรงกับความเป็นจริง
นอกจากเรื่องน้ำมันแล้ว Andrew McKenzie Smith แห่งเมือง Dundee ใน Scotland ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวออกไป วิตกกับอนาคตที่มองไม่เห็น และว่าแม้ข้อเสนอแนะของฝ่ายที่ต้องการแยกตัว อาจฟังดูน่าตื่นเต้น แต่ไม่มีความแน่นอนว่าข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นจริงขึ้นมาได้
แต่ Kerry Anderson จากกลุ่ม Business for Scotland โต้ว่า การเป็นอิสระจะปลดปล่อย Scotland จากแอกทางเศรษฐกิจของลอนดอน และจะสามารถกำหนดลำดับความสำคัญให้กับธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ เช่น การผลิตวิสกี้ น้ำมันและแก๊สธรรมชาติ การประมง วิศวกรรม และการศึกษา เหล่านี้เป็นต้น
นักวิเคราะห์การเมืองบอกส่งท้ายว่า คะแนนเสียงระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยที่คู่คี่กันมากนี้ ก่อให้เกิดความตื่นตกใจทั่วสหราชอาณาจักร ที่ยืนยาวมานาน 300 ปีนี้มาก