เหตุการณ์ยิงกราดครั้งล่าสุดในรัฐเท็กซัสเมื่อวันอังคารคือ เหตุสลดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ อีกครั้ง และยังเป็นภาพสะท้อนกรณีเหตุใช้อาวุธปืนยิงฝูงชนที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในรัฐนี้ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุยิงกราดในสหรัฐฯ เลือกพุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนที่เข้าไปทำกิจกรรมในศาสนาสถานในวันอาทิตย์ นักช้อปที่วอลมาร์ท นักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย และผู้ใช้รถบนถนนหลวง
แต่ในวันอังคารที่ผ่านมา เหยื่อนั้นเป็นเด็ก 19 คนและครู 2 คนจากโรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของนครซานอันโตนิโอ โดยเหตุการณ์นี้ได้กลายมาเป็นกรณีการยิงกราดในรั้วโรงเรียนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบเกือบทศวรรษ
และเมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตจากกรณียิงกราดในรัฐเท็กซัสนั้นอยู่ที่กว่า 85 คนแล้ว
ขณะที่ เหตุสลดครั้งล่าสุดนี้ทำให้คนทั่วสหรัฐฯ กลับมาถกเถียงกันอีกครั้งเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการใช้ปืน หลายคนเชื่อว่า รัฐเท็กซัสและรัฐบาลของรัฐที่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่น่าจะไม่ทำการใด ๆ เพื่อควบคุมการเข้าถึงอาวุธปืนเลย
เมื่อปีที่แล้ว รัฐเท็กซัสเพิ่งผ่านกฎหมายที่เอื้อให้การซื้อปืนทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น แม้ว่า เมื่อปี ค.ศ. 2019 จะเพิ่งมีเหตุการณ์มือปืนรายหนึ่งทำการยิงกราดที่ร้านวอลมาร์ท ในเมืองเอล ปาโซ ซึ่งเป็นกรณีการมุ่งทำร้ายที่เหยียดเชื้อชาติ เพราะเหยื่อนั้นเป็นผู้มีพื้นเพมาจากครอบครัวที่พูดภาษาสเปน
สถานการณ์ที่ดำเนินมาเช่นนี้ในเท็กซัสสะท้อนภาพความเป็นจริงที่ว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันจะยังคงเดินหน้าสกัดกั้นสภาคองเกรสไม่ให้ออกกฎหมายเข้มงวดในการควบคุมปืนต่อไป ขณะที่ สมาชิกพรรคเดโมแครตและผู้ที่สนับสนุนการมีกฎหมายดังกล่าวก็จะได้แต่อยู่ในสภาพขุ่นเคืองไปตลอด
เมื่อค่ำวันอังคารหลังมีรายงานเหตุยิงกราดในเท็กซัส ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์จากทำเนียบขาวด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว ที่มีการตั้งคำถามว่า “เมื่อไหร่เราถึงจะลุกขึ้นยืนสู้กับพวกกลุ่มล็อบบี้อาวุธปืนกัน?”
เหตุการณ์ยิงกราดในเท็กซัสนั้นเกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ (National Rifle Association – NRA) ประกาศแผนจัดการประชุมประจำปีในนครฮิวสตัน ซึ่งมีกำหนดเชิญ เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐนี้และผู้นำพรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ ขึ้นเวทีงานด้วย
ในเวลานี้ แม้ว่า พรรคเดโมแครตจะมีเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอยู่บ้าง ความหวังที่จะผลักดันกฎหมายควบคุมความรุนแรงจากการใช้ปืนนั้นยังริบหรี่อยู่ดี เนื่องจาก เสียงคัดค้านอย่างแข็งขันจากฝ่ายรีพับลิกัน
เมื่อปีที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่มีเนื้อหาเพิ่มเงื่อนไขให้มีการตรวจสอบประวัติของผู้ซื้ออาวุธปืนออกมา แต่ทั้งสองฉบับกลับไม่สามารถฝ่าด่านวุฒิสภาที่มีสมาชิกทั้งสองพรรคใหญ่ครองเสียงพรรคละ 50 เสียงอยู่ เพราะเดโมแครตต้องการเสียงสนับสนุนจากรีพับลิกันอย่างน้อยอีก 10 เสียงตามเงื่อนไขของกระบวนการ filibuster หรือ การอภิปรายถ่วงเวลาเพื่อขวางการลงมติในร่างกฎหมาย ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยมักเลือกใช้ได้
ในส่วนของรัฐเท็กซัสนั้น การจะเปลี่ยนกฎหมายเรื่องการเข้าถึงปืนนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกสภาคองเกรสเปิดสมัยประชุมในปี ค.ศ. 2023 แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ว่าเกิดขึ้นจริง เพราะที่ผ่านมา เสียงเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายปืนนั้นไม่เคยนำไปสู่การลงมือทำเลย
สำหรับเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เมืองยูวัลดีนี้ ผู้ว่าฯ แอบบอตต์ ซึ่งจะต้องลงสนามเลือกตั้งเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เท็กซัสจะทำการใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ขณะที่ รัฐนี้มีแต่ผ่อนคลายกฎหมายเกี่ยวกับปืนมาตั้งแต่ แอบบอตต์ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเมื่อปี ค.ศ. 2015
และเมื่อ 1 ปีก่อนเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี รัฐสภาของรัฐเท็กซัสที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่เพิ่งทำการลงมติถอดเงื่อนไขบังคับให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นเจ้าของปืนพกจำนวนเกือบ 1.6 ล้านคนในรัฐนี้ต้องแสดงใบอนุญาตครอบครองอาวุธ ทำการตรวจสอบประวัติ และเข้ารับการอบรม โดยผู้ว่าฯ แอบบอตต์ เป็นผู้ลงนามรับรองการแก้ไขกฎหมายนี้ ซึ่งถูกมองว่า เป็นการปิดฉากโอกาสของเท็กซัสในการปรับปรุงกฎหมายปืน หลังเหตุยิงกราดที่ร้านวอลมาร์ทไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ว่าฯ แอบบอตต์ ทำไปนั้นดูขัดแย้งกับสัญญาณของเขาว่าจะสนับสนุนกฎหมาย “ธงแดง” ที่มีจุดประสงค์จำกัดการเข้าถึงอาวุธปืนโดยผู้ที่มีโอกาสทำอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น หลังเกิดเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียน Santa Fe High School ใกล้ ๆ นครฮิวสตัน เมื่อปี ค.ศ. 2018 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน
เคน แพ็กซ์ตัน อัยการสูงสุดของรัฐเท็กซัส ซึ่งเพิ่งได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันให้รับตำแหน่งต่อในสมัยที่ 3 เมื่อวันอังคาร บอกกับสถานีข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ หลังทราบเกี่ยวกับเหตุสลดที่โรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเรื่องนี้ก็คือ การให้ครูเข้าอบรมและการทำโรงเรียน “แข็งแกร่งขึ้น”
ท้ายสุด โจ มูดี้ ส.ส.รัฐเท็กซัส สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เมื่อหลังเกิดกรณียิงกราดที่ร้านวอลมาร์ทนั้น ตนหวังว่า จะเกิดการปฏิรูปกฎหมายปืนได้ในที่สุด แต่ในวันนี้ เขากล่าวว่า “คำตอบเดียวที่จะได้เมื่อหันหน้าไปหาแคปิตอล (รัฐสภาสหรัฐฯ) ก็คือ ‘การมีปืนมากขึ้น และการลดข้อจำกัดต่าง ๆ ลง’ … เพียงแค่นั้น”
- ที่มา: เอพี