รัฐบาลกรุงวอชิงตันเตรียมบังคับใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจชุดใหม่ต่อสมาชิกและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลทหารเมียนมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปี การก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน
ไบรอัน เนลสัน รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ รวมทั้งพันธมิตร เช่น สหราชอาณาจักรและแคนาดา ตัดสินใจยืนหยัดร่วมกันกับประชาชนชาวพม่าที่พยายามต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเสรีภาพและประชาธิปไตย พร้อมระบุว่า “เราจะเดินหน้าพุ่งเป้าไปยังบรรดาผู้ที่รับผิดชอบต่อการก่อรัฐประหารและเหตุรุนแรงที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่สนับสนุนให้ประเทศนี้ทำการกดขี่ปราบปราบอย่างโหดร้าย รวมทั้งผู้ที่ให้การสนับสนุนทางการเงินต่างๆ ด้วย”
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่ถูกขึ้นชื่อในมาตรการลงโทษรอบใหม่นี้มีอาทิ อัยการสูงสุด ทิดา อู และตุลาการสูงสุด ตุน ตุน อู รวมทั้ง ประธานคณะกรรมการต่อต้านคอร์รัปชั่น ติน อู ขณะที่ องค์กรสองแห่งที่ถูกรวมอยู่ในมาตรการล่าสุดนี้ ได้แก่ บริษัท KT Services & Logistics และคณะบัญชางานด้านจัดซื้อจัดจ้างของผู้บัญชาการสูงสุดของบริการด้านกลาโหมของเมียนมา ซึ่งสหรัฐฯ ระบุว่า ให้การสนับสนุนรัฐบาลทหารมาโดยตลอด
ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯ จะเดินหน้าร่วมมือกับหุ้นส่วนนานาชาติในการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกดดันให้เมียนมายุติการใช้ความรุนแรง รวมทั้งปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังโดยไม่ยุติธรรม พร้อมกับอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปโดยไม่มีการกั้นขวางใดๆ และฟื้นฟูการเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยของประเทศด้วย
ภายใต้มาตรการลงโทษล่าสุดนี้ สินทรัพย์ในสหรัฐฯ ของบุคคลและองค์กรที่ถูกระบุชื่อไว้จะถูกจำกัดการเข้าถึงหรือปิดกันโดยอัตโนมัติ
