อีกไม่นาน เกาหลีใต้จะเปิดตัวโครงการนำร่องในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ระบบจดจำใบหน้า และกล้องวงจรปิดหลายพันตัว เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน
โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนระดับประเทศในเมืองพูชอน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศในเขตชานเมืองของกรุงโซล รายงานของรอยเตอร์ระบุว่าโครงการนี้มีกำหนดจะเริ่มดำเนินการในเดือนมกราคม
แผนการธุรกิจความยาว 110 หน้าที่เมืองพูชอนได้ส่งไปยังกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) ระบุว่า ระบบดังกล่าวจะใช้อัลกอริธึม AI และเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าในการวิเคราะห์ภาพที่รวบรวมโดยกล้องวงจรปิดมากกว่า 10,820 ตัว และติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ติดเชื้อ ตลอดจนผู้ใกล้ชิดและดูว่าคนเหล่านั้นสวมหน้ากากหรือไม่
รัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้หันไปใช้เทคโนโลยีใหม่และขยายอำนาจทางกฎหมายเพื่อพยายามยับยั้งกระแสของการติดเชื้อโควิด-19 เช่น จีน รัสเซีย อินเดีย โปแลนด์ และญี่ปุ่น รวมถึงรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ได้เปิดตัวหรืออย่างน้อยได้ทดลองใช้ระบบจดจำใบหน้าเพื่อติดตามผู้ป่วยโควิด-19 ตามรายงานของ Columbia Law School ในนิวยอร์กเมื่อเดือนมีนาคม
เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอนกล่าวว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ติดตามที่ทำงานหนักเกินไปในเมืองที่มีประชากรมากกว่า 800,000 คน และช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกาหลีใต้เป็นจะประเทศที่มีระบบติดตามด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งรวบรวมบันทึกบัตรเครดิต ข้อมูลตำแหน่งโทรศัพท์มือถือ และภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ดีมากอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องอาศัยเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคระบาดจำนวนมาก ซึ่งมักจะต้องทำงานเป็นกะตลอด 24 ชั่วโมง ในการติดตามอย่างไม่ลดละ และคอยติดต่อกับผู้ป่วยที่อาจติดเชื้อโคโรนาไวรัส
นาย Jang Deog-cheon นายกเทศมนตรีเมืองพูชอน กล่าวว่า ระบบดังกล่าวจะช่วยให้การติดตามผู้ติดเชื้อสามารถทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเขายังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า บางครั้งการติดตามผู้ป่วยด้วยกล้องวงจรปิดอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการวิเคราะห์ภาพ แต่การใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ได้ในทันที
นอกจากนี้แล้ว ระบบดังกล่าวยังได้รับการออกแบบเพื่อเอาชนะข้อเท็จจริงที่ว่าเจ้าหน้าที่ต้องอาศัยการให้ปากคำของผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งอาจมีการปกปิดความจริงเกี่ยวกับไทม์ไลน์ของตน
กระทรวงวิทยาศาสตร์และ ICT กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะขยายโครงการไปสู่ระดับประเทศ และว่าจุดประสงค์ของโครงการนี้คือการเปลี่ยนการทำงานด้วยด้วยระบบ manual ให้เป็นระบบ digital
ทั้งนี้ ระบบติดตามด้วย AI ของเมืองพูชอนสามารถติดตามคนได้มากถึง 10 คนพร้อมกันในเวลา 5-10 นาที ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่โดยปกติแล้วใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงในการติดตามบุคคลหนึ่งคน
แผนงานของโครงการนำร่องนี้จะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คนในศูนย์สาธารณสุขหนึ่งแห่ง ในการใช้ระบบการรับรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เจ้าหน้าที่ของเมืองพูชอนกล่าวว่า พูชอนได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 1.6 พันล้านวอน จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และ ICT และอัดฉีดงบประมาณของท้องถิ่นเพิ่มไปอีก 500 ล้านวอนเพื่อสร้างระบบติดตามผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า
(ที่มา: สำนักข่าว รอยเตอร์)