ชาวชาวรัสเซีย 2 คน อ้างว่า ตนหลบหนีออกนอกประเทศมาเพื่อที่จะไม่ต้องถูกเกณฑ์ไปร่วมรบในสงครามยูเครน ยื่นเรื่องขอลี้ภัยในสหรัฐฯ หลังเดินทางด้วยเรือลำเล็กมาถึงเกาะที่อยู่ห่างไกลแผ่นดินใหญ่ในรัฐอลาสกา
สำนักงานของ ลิซ่า เมอร์คาวสกี วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน เปิดเผยรายงานดังกล่าวในวันพฤหัสบดี โดยโฆษกของส.ว.อลาสการายนี้ระบุในอีเมล์ที่ส่งถึงผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานของวุฒิสมาชิกเมอร์คาวสกีได้สื่อสารกับกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งและสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ แล้ว และ “พลเมืองรัสเซียได้แจ้งว่า พวกเขาหนีมาจากชุมชนชายฝั่งแห่งหนึ่งทางชายฝั่งภาคตะวันออกของรัสเซียเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร”
ชายชาวรัสเซียหลายพันคนได้หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศสั่งระดมพลเพื่อสนับสนุนกองทัพในสงครามยูเครน และแม้ปธน.ปูติน ประกาศว่า การระดมพลครั้งนี้มีเป้าหมายเกณฑ์ชายชาวรัสเซียจำนวน 300,000 คนที่เคยรับราชการทหารมาแล้ว ชาวรัสเซียจำนวนมากกลัวว่า ในความเป็นจริง กองทัพจะเกณฑ์ทุกคนมากกว่า
โฆษกของกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งและสำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ แจ้งผู้สื่อข่าวให้ไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้กับแผนกกิจการสาธารณะของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ซึ่งออกแถลงการณ์สั้น ๆ ในวันพฤหัสบดีที่ระบุเพียงว่า ชายทั้งสองคน “ถูกนำตัวส่งไปยังเมืองแองเคอราจเพื่อการตรวจสอบ ซึ่งรวมความถึงกระบวนการคัดกรอง ก่อนที่จะนำตัวไปเข้าสู่ขั้นตอนต่าง ๆ ตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (Immigration and Nationality Act) ต่อไป”
แผนกดังกล่าวว่า ชาวรัสเซียสองคนเดินทางมาด้วยเรือลำเล็กในวันอังคาร แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่มา การเดินทาง และคำขอลี้ภัยด้วย
แต่วุฒิสมาชิกอลาสกาทั้งสองรายที่มาจากพรรครีพับลิกัน อันได้แก่ เมอร์คาวสกี และ แดน ซัลลิแวน เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ชาวรัสเซียทั้งสองคนขึ้นฝั่งที่ชายหาดใกล้ ๆ กับเมืองแกมเบลล์ ซึ่งเป็นชุมชนพื้นเมืองอลาสกาที่อยู่ห่างไกลเมืองและมีประชากรราว 600 คน บนเกาะเซนต์ลอว์เรนซ์ โดย ซัลลิแวน ระบุว่า ตนได้รับแจ้งเรื่องนี้จาก “ผู้นำชุมชนอาวุโสจากแคว้นช่องแคบแบริ่ง” ในช่วงเช้าวันอังคาร
ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ในเมืองแกมเบลล์ แต่ได้รับแจ้งว่าให้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางแทน และผู้สื่อข่าวได้ลองติดต่อขอความเห็นไปยังสถานกงสุลใหญ่รัสเซียในซานฟรานซิสโกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
ส.ว.ซัลลิแวน ระบุในแถลงการณ์ว่า ตนได้แนะไปยังหน่วยงานรัฐบาลกลางให้เตรียมแผนรองรับสำหรับกรณีที่ “มีชาวรัสเซียอื่น ๆ หลบหนีมายังชุมชนช่องแคบแบริ่งในอลาสกาอีก” และว่า “เหตุที่เกิดขึ้นนี้นำมาซึ่งความกระจ่างใน 2 ประเด็น คือ หนึ่ง ประชาชนชาวรัสเซียไม่ต้องการจะร่วมสงครามรุกรานยูเครนของปูติน ... สอง คือ เมื่อพิจารณาว่า อลาสกานั้นตั้งอยู่ใกล้กับรัสเซียแล้ว รัฐของเรามีบทบาทสำคัญในการช่วงปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกาด้วย”
ส่วน ส.ว.เมอร์คาวสกี ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอกย้ำ “ความจำเป็นของความพร้อมด้านความมั่นคงที่เข้มแข็งขึ้นของอเมริกาในแถบอาร์กติก” แล้ว
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไมค์ ดันลีฟวี ผู้ว่าการรัฐอลาสกา กล่าวว่า ตนไม่คาดว่าจะมี “กองเรือเล็ก” ของผู้คนหลั่งไหลตามเส้นทางดังกล่าวมายังอลาสกา พร้อมเตือนว่า การเดินทางผ่านภูมิภาคดังกล่าวนั้นอาจมีอันตรายได้ เพราะมีพยากรณ์แล้วว่า พายุฤดูใบไม้ร่วงพร้อมลมกำลังแรงกำลังจะพัดผ่านเส้นทางนั้น
ทั้งนี้ การเดินทางตามเส้นทางที่ชาวรัสเซีย 2 คนเลือกใช้เพื่อมาสหรัฐฯ นั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยเท่าใด
โดยปกติ ชาวรัสเซียมักเลือกเดินทางเข้าสหรัฐฯ ผ่านเม็กซิโก ซึ่งไม่ต้องใช้วีซ่า และส่วนใหญ่จะเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงมอสโกมายังเมืองแคนคูนหรือกรุงเม็กซิโกซิตี้ โดยเข้าเมืองในฐานะนักท่องเที่ยว ก่อนจะต่อเครื่องมายังชายแดนสหรัฐฯ
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ ต้องปะทะกับชาวรัสเซียจำนวนมากมายที่หวังว่า จะไปให้ถึงป้อมตรวจเอกสารที่บริเวณพรมแดนระหว่างสองประเทศ เพื่อจะได้ยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัย
มีการตรวจสอบและพบว่า จำนวนชาวรัสเซียที่ต้องการเข้ามาลี้ภัยในสหรัฐฯ พุ่งสูงตั้งแต่ก่อนมีการรุกรานยูเครนเสียอีก โดยสาเหตุนั้นมาจากการที่รัสเซียสั่งจำคุก อเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลกรุงมอสโก เมื่อปีที่แล้ว
- ที่มา: วีโอเอ