ในวันศุกร์ รัสเซียกล่าวว่า สามารถควบคุมพื้นที่ในเขตเมืองโซเลดาร์ในยูเครน โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่าสามารถยึดเมืองดังก่าวได้ตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดี
ฝ่ายยูเครนไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ หลังจากรัสเซียอ้างชัยชนะ
เมื่อวันพฤหัสบดี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกลาโหมยูเครน ฮานนา มาลายร์ กล่าวว่า กองทัพยูเครนยังคงยืนหยัดที่เมืองดังกล่าว ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ แม้เกิดการต่อสู้อย่างหนักกับรัสเซีย
ก่อนหน้านั้นในสัปดาห์เดียวกัน ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างอ้างว่าสามารถคุมพื้นที่การรบที่โซเลดาร์ได้
ทั้งนี้โซเลดาร์ ซึ่งมีอุตสาหกรรมเหมืองเกลือ เป็นพื้นที่รบที่เกิดการปะทะบ่อยครั้งที่สุดแห่งหนึ่ง และนักข่าวประสบความยากลำบากในการยืนยันคำกล่าวอ้างของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อีกด้านหนึ่ง รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนโอเล็กซี เรซนิคอฟ บอกกับสื่อบีบีซีว่า ยูเครนเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้แล้วในทางปฏิบัติ จะรอก็เพียงผลของการเป็นสมาชิกภาพทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเกิดขึ้น “ในอนาคตอันใกล้”
เรซนิคอฟกล่าวด้วยว่า ยูเครนได้รับอาวุธและการฝึกทางทหาร ตามที่ต้องการ ในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย
ฝ่ายกระทรวงกลาโหมของอังกฤษระบุว่า ภาคการผลิตอาวุธของรัสเซีย น่าจะนำนักโทษมาเป็นแรงงาน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต โดยเมื่อ 6 ปีก่อน รัสเซียเริ่มกลับมาบัญญัติให้ “การบังคับใช้แรงงานเป็นการลงโทษทางอาญา”
ขณะที่สถาบัน Institute for the Study of War ในสหรัฐฯ กล่าวว่าปธน.วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย อาจจะกำลังหา “แพะรับบาป” จากกรณีที่การผลิตอาวุธประสบความยากลำบาก
ก่อนหน้านี้ปธน.ปูตินตำหนิรองนายกรัฐมนตรี เดนิส แมนทูรอฟต่อหน้าสาธารณะมาแล้ว โดยผู้นำรัสเซีย บอกเขาว่า “อย่างแกล้งทำเป็นไม่รู้” เกี่ยวกับปัญหาการผลิตอาวุธ
สถาบันดังกล่าวของสหรัฐฯ ระบุว่าเหตุการณ์นี้อาจจะเป็น ปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสารของรัสเซียเพื่อสร้างภาพว่า ปธน.ปูตินเป็นผู้นำที่มีบทบาทสำคัญในยามสงคราม
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอเอฟพี และรอยเตอร์