รัสเซียขู่สหรัฐฯ อาจขายหน้าเหมือนสงครามเวียดนาม-อัฟกัน หากช่วยยูเครนต่อ

ผู้นำยูเครน ย้ำสหรัฐฯ มอบโอกาสคว้าชัยเหนือรัสเซีย หลังสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณด้านความมั่นคงต่างประเทศเมื่อวันเสาร์ ด้านรัฐบาลทำเนียบเครมลินเตือนสหรัฐฯ ว่าอาจจะต้องอับอายในสงครามยูเครน เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับสงครามเวียดนามและอัฟกานิสถาน หากเดินหน้าสนับสนุนรัฐบาลกรุงเคียฟต่อไป

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ย้ำว่าประเทศยังคง “มีโอกาสคว้าชัย” เหนือรัสเซีย ด้วยความช่วยเหลือรอบใหม่จากสหรัฐฯ ที่ใกล้จะได้รับการอนุมัติจากสภาสหรัฐฯ โดยผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ว่า “การสนับสนุนนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กองทัพ ... จากนั้นเราต้องทำให้เร็วที่สุดเพื่อให้ความช่วยเหลือถึงมือเหล่าทหารแนวหน้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ – ไม่ใช่อีก 6 เดือนข้างหน้า เพื่อให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปได้”

ผู้นำยูเครนย้ำด้วยว่า ต้องการอาวุธพิสัยไกลเพื่อลดความสูญเสียกำลังพลที่แนวหน้า รวมทั้งระบบป้องกันตนเองทางอากาศเป็นสำคัญ และเมื่อสื่อถามว่าความช่วยเหลือนี้จะทำให้ยูเครนชนะสงครามได้หรือแค่ซื้อเวลาเท่านั้น ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับว่าจะได้อาวุธถึงสนามรบเมื่อใด”

เมื่อวันเสาร์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านงบประมาณความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนมูลค่า 60,800 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ จะผ่านงบประมาณดังกล่าวในสัปดาห์นี้ และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นลำดับถัดไป

สหรัฐฯ ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อยูเครนในภาวะสงคราม ซึ่งการอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ที่ค้างอยู่ในสภา อาจช่วยให้กองทัพยูเครนยังไปต่อในสงครามที่ดำเนินมากว่า 2 ปีนี้ได้

อีกด้านหนึ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าความช่วยเหลือรอบใหม่ของสหรัฐฯ เป็นเครื่องยืนยันชัดเจนแล้วว่าสหรัฐฯ ต้องการให้ยูเครน “ต่อสู้จนถึงหยดสุดท้าย” ซึ่งรวมถึงการโจมตีพลเมืองดินแดนในอธิปไตยของรัสเซียด้วย

ซาคาโรวา กล่าวว่า “การที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันดำดิ่งลึกลงไปในสงครามลูกผสมกับรัสเซีย จะกลายเป็นความล้มเหลวอันน่าอับอายแก่สหรัฐฯ เฉกเช่นในเวียดนามและอัฟกานิสถาน” และรัสเซียจะมอบ “การตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวและไม่มีเงื่อนไข” กับท่าทีของสหรัฐฯ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในสงครามยูเครนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย

สำหรับสงครามยูเครน ตอนนี้รัสเซียเข้าควบคุมพื้นที่ราว 18% ของยูเครน ทางตะวันออกและตอนใต้ และเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้อำนวยการซีไอเอ วิลเลียม เบิร์นส ออกมาเตือนว่า ยูเครนอาจพ่ายแพ้ในสงครามหากปราศจากความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ยังยืนยันว่าจะไม่ส่งทหารของตนหรือของพันธมิตรนาโต้ไปในดินแดนของยูเครน

ย้อนกลับไปในสงครามเวียดนาม ช่วงปี 1955-1975 สหรัฐฯ สูญเสียกำลังทหารกว่า 58,000 นาย และจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของสหรัฐฯ และพลเรือนเวียดนามหลายแสนคนถูกสังหาร ส่วนในสงครามในอัฟกานิสถาน ช่วงปี 2001-2021 สหรัฐฯ สูญเสียทหาร 2,459 นาย และกว่า 20,000 นายบาดเจ็บในความขัดแย้งที่จบลงด้วยการถอนทหารที่นำโดยสหรัฐฯ และคืนอำนาจให้กับตาลีบันในท้ายที่สุด

ส่วนสหภาพโซเวียต สูญเสียกำลังพล 14,453 นายในสงครามอัฟกานิสถาน ช่วงปี 1979-1989 และมีพลเรือนจากทั้งสองฝั่งเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเช่นกัน

• ที่มา: วีโอเอและรอยเตอร์