ในวันศุกร์ รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มยูเครนในหลายจุด โดยระบบพื้นฐานที่สำคัญได้รับความเสียหาย และเกิดไฟดับในยูเครน ขณะที่ใกล้เข้าวันครบรอบ 1 ปีการบุกยูเครนของรัสเซีย ในวันที่ 24 ก.พ.
ซาปอริซห์เซีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปถูกกระหน่ำด้วยขีปนาวุธ 17 ลูกในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ตามข้อมูลของรักษาการนายกเทศมนตรีผู้รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว
การโจมตีในครั้งนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเดินทางเยือนลอนดอน ปารีส และบรัสเซลล์ ซึ่งเขาได้พบกับผู้นำยุโรปหลายคน เพื่อเร่งเร้าให้ยูเครนได้รับความช่วยเหลือประเภทเครื่องบินรบในการต่อสู้กับรัสเซีย
ที่ผ่านมายูเครนได้รับคำมั่นจากสหรัฐฯ เยอรมนี และประเทศพันธมิตรจากองค์การสนธิสัญญาแอตเเลนติกเหนือหรือนาโต้ ในการส่งรถถังสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังไม่ได้รับรถถังในจำนวนที่เพียงพอต่อการต้านรัสเซียอย่างได้ผล
รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษกล่าววันศุกร์ว่า กองทัพรัสเซีย ดูเหมือนว่าจะรุกคืบทางยุทธวิธีได้ ในเขตสำคัญสองเเห่ง คือบาคห์มุตที่อยู่ด้านเหนือของดอนบาส และทางตะวันตกของเมืองวูห์ลีดาร์ โดยหน่วยงานข่าวกรองของอังกฤษ โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่ากองทัพรัสเซียได้รุกคืบบริเวณรอบ ๆ ด้านตะวันตกของเมืองดังกล่าว
กระทรวงกลาโหมอังกฤษบอกด้วยว่า ทางตอนเหนือของบาคห์มุต กองกำลังของกลุ่ม "แว็คเนอร์ กรุ๊ป" บุกลึกเข้ามาได้ราว 2-3 กิโลเมตร และควบคุมพื้นที่ใกล้เส้นทางสู่ตัวเมือง
รายงานดังกล่าวระบุว่าฝ่ายรัสเซียน่าจะสูญเสียหนักเช่นกันด้วยเช่นกัน เพราะกองกำลังขาดประสบการณ์
กระทรวงฯ กล่าวว่า ในเหตุการณ์หนึ่ง หลังจากโจมตีไม่สำเร็จ ฝ่ายรัสเซียน่าจะสละพาหนะเคลื่อนที่ของพวกตนอย่างน้อย 30 คัน ซึ่งส่วนมากเป็นรถหุ้มเกราะ "
ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย อเล็กซานเดอร์ โนแวคกล่าวว่ารัสเซีย จะลดการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อเดือน เริ่มต้นเดือนหน้า
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี และรอยเตอร์