ประธานาธิบดี Putin ของรัสเซียไปร่วมงานฉลองครบรอบ 70 ปีที่จีนชนะญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองที่กรุงปักกิ่ง และเดิมนั้นคาดกันว่า ประธานาธิบดีของรัสเซียจะไปเยือนญี่ปุ่นด้วยในปีนี้
แต่นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่ากรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะ Kuril ระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่หลังสงครามโลก ประกอบกับมาตรการลงโทษรัสเซียทางเศรษฐกิจที่สืบเนื่องมาจากบทบาทของรัสเซียในเรื่องยูเครน ซึ่งญี่ปุ่นสนับสนุนร่วมกับชาติตะวันตก จึงไม่น่าจะมีการเยือนญี่ปุ่นอยู่ในกำหนดการของประธานาธิบดี Putin ในปีนี้
หลังจากที่ชาติตะวันตกและญี่ปุ่นดำเนินการมาตรการลงโทษรัสเซียทางเศรษฐกิจที่สืบเนื่องมาจากบทบาทของรัสเซียในยูเครน รัสเซียเริ่มหันไปหาเพื่อนในตะวันออก แต่ไม่ใช่ญี่ปุ่น
นาย Alexander Panov อดีตเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่าไม่มีปัญญาชนทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองในรัสเซียที่สนใจญี่ปุ่น และได้เห็นคนญี่ปุ่นไม่ให้ความสนใจรัสเซียด้วย
ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งหนึ่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อนายกรัฐมนตรี Dmitry Medvedev ของรัสเซียเดินทางเยือนหมู่เกาะ Kuril ซึ่งทั้งญี่ปุ่นและรัสเซียอ้างสิทธิ์มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ทางฝ่ายญี่ปุ่นเอง ก็เลื่อนกำหนดการเยือนกรุงมอสโคโดยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของตนเอง รวมทั้งการหารือเรื่องกำหนดการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี Putin ในปีนี้ด้วย
นาย Dmitri Trenin ผู้อำนวยการศูนย์ Carnegie Moscow ให้ความเห็นว่า การที่ประธานาธิบดี Putin เห็นด้วยกับการเยือนหมู่เกาะดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี Medvedev ก็เพื่อส่งข้อความบอกญี่ปุ่นว่า รัสเซียก็แข็งกร้าวได้เหมือนกัน
แม้กรณีพิพาทเรื่องหมู่เกาะแห่งนี้จะล่วงเลยมานาน 70 ปีแล้ว แต่ไม่มีฝ่ายใดยอมถอยหลัง และเป็นสาเหตุสำคัญที่จนทุกวันนี้ รัสเซียและญี่ปุ่นยังไม่ได้ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างกัน
ในขณะเดียวกัน นาย Alexander Panov อดีตเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำญี่ปุ่น อ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี Abe ที่กล่าวไว้ในที่ประชุม G-7 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ที่อยากจะหารือกับรัสเซีย ก็เพราะกลัวว่ารัสเซียจะจับมือกับจีนร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น
นักวิเคราะห์หลายรายไม่คิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีนจะแนบแน่นขนาดนั้น และเห็นว่า การเจรจาระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นจะเป็นประโยชน์มากกว่าให้โทษ