รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู ระบุในวันพุธว่าได้สั่งถอนทหารออกจากเมืองเคอร์ซอน และถอยร่นมาปักหลักบริเวณฝั่งตรงข้ามแม่น้ำดนิโปร ตามแผนการถอยทัพครั้งใหญ่ของรัสเซียในสงครามกับยูเครน ในขณะที่ยูเครนยังมีท่าทีระมัดระวังต่อแผนการของรัสเซียในครั้งนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของพลเอกเซอร์เก ซูโรวิคิน ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียที่ดูแลการสู้รบทั้งหมดในยูเครน รายงานต่อรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียว่า กองทัพรัสเซียไม่สามารถส่งเสบียงไปยังเมืองเคอร์ซอนได้อีกแล้ว “จากการประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน จึงควรให้ถอยแนวป้องกันไปตามแนวฝั่งซ้าย (ตะวันออก) ของฝั่งแม่น้ำดนิโปร”
พลเอกซูโรวิคิน บอกด้วยว่า “ผมเข้าใจว่านี่คือสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันเราจะต้องรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุด – ชีวิตของทหารเรา และประสิทธิภาพในการสู้รบของเหล่าทหารของเรา ซึ่งไม่มีประโยชน์เลยที่จะจัดทัพไว้บริเวณฝั่งขวาของแม่น้ำซึ่งมีพื้นที่จำกัด”
เคอร์ซอน เป็นเมืองหลักในภูมิภาคเคอร์ซอน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขตปกครองยูเครนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศแผนผนวกให้เป็นของรัสเซีย “ตลอดไป” เมื่อเดือนกันยายน ขณะที่ข่าวการถอนทัพของรัสเซีย มีขึ้นหลังจากช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนรุกคืบโจมตีกองทัพรัสเซียในพื้นที่เคอร์ซอนจนกองทัพรัสเซียต้องถอยร่นไป และรัสเซียกำลังเร่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คนโดยให้ขึ้นเรือข้ามฝั่งแม่น้ำ
การประกาศถอนทัพของรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นการถอนทัพครั้งสำคัญที่สุดของรัสเซีย และอาจเป็นจุดเปลี่ยนในเกมสงครามที่ดำเนินมา 9 เดือน
อย่างไรก็ตาม ทางยูเครนตอบโต้ในประเด็นการประกาศถอนทหารนี้อย่างระมัดระวัง และว่ายังมีกองทัพรัสเซียประจำการอยู่ในเคอร์ซอนอยู่
มิไคโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า “จนกว่าธงยูเครนจะขึ้นโบกสะบัดในเมืองเคอร์ซอน มันยังเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะพูดถึงการถอนทหารของรัสเซียในตอนนี้”
ด้านเลขาธิการองค์การนาโต้ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวระหว่างการเยือนกรุงลอนดอน ว่ารับทราบและยินดีกับข่าวนี้ และเน้นย้ำความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติมให้แก่รัฐบาลกรุงเคียฟ แต่ได้เตือนกว่ากองทัพยูเครนอาจเผชิญกับกับดักและตกเป็นเป้าการโจมตีอย่างหนักหน่วงจากรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวได้
โดยเลขาธิการองค์การนาโต้ กล่าวกับสื่อ Sky News ว่า “เราไม่ควรประเมินรัสเซียต่ำเกินไป พวกเขายังมีศักยภาพอยู่” และว่า “เราได้เห็นการใช้โดรน เราได้เห็นการใช้ขีปนาวุธ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ารัสเซียยังสามารถสร้างความเสียหายได้อีกมาก”
- ที่มา: รอยเตอร์
