รายงานระบุว่าจำนวนหุ่นยนต์ที่ใช้ในสถานที่ทำงานทั่วสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีพ.ศ. 2552 ถึงปี 2560
รายงานดังกล่าวมาจากกลุ่มวิจัยของมูลนิธิ Century Foundation ซึ่งตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ซึ่งระบุว่า หุ่นยนต์ส่วนใหญ่ทำงานในฝ่ายการผลิตทั่วรัฐในแถบมิดเวสต์ หรือแถบตอนกลางของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการสูญเสียงานด้านการผลิต
William M. Rodgers III ศาสตราจารย์ด้านนโยบายสาธารณะและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ที่ศูนย์พัฒนาบุคลากร Heldrich Center ที่มหาวิทยาลัย Rutgers ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เป็นผู้ร่วมเขียนรายงานที่ศึกษาว่าหุ่นยนต์ที่ทำงานแทนมนุษย์นั้นส่งผลกระทบต่อคนงานในสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง
ศาสตราจารย์ Rodgers กล่าวว่า ปัญหานี้อาจทำให้ผู้คนต้องย้ายถิ่นฐานหรือย้ายงานมากขึ้น แต่บรรดาบริษัทธุรกิจต่าง ๆ ที่ขยายตัวโดยที่ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยี ไม่ต้องพึ่งพาหุ่นยนต์ สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้
รัฐบางรัฐในแถบมิดเวสต์มีการใช้หุ่นยนต์มากกว่าพื้นที่อื่นถึงสองเท่า ซึ่งทำให้ผู้คนในบริเวณนั้น ๆ ได้รับความเดือดร้อน
ที่รัฐมิชิแกน โอไฮโอ อินเดียนา อิลลินอยส์ และวิสคอนซิน มีอัตราการใช้แรงงานหุ่นยนต์สูงที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในธุรกิจด้านการผลิตที่ซึ่งหุ่นยนต์มักจะทำงานที่ไม่ซับซ้อนมากนักในแต่ละวัน รวมถึงการประกอบสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน การลำเลียงสินค้า เชื่อม หรือทาสี เป็นต้น
รายงานพบว่า คนงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการถูกหุ่นยนต์เหล่านี้แย่งงาน คือกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งมีระดับการศึกษาน้อยกว่าคนงานกลุ่มอื่น ๆ ส่วนชายและหญิงอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันก็ประสบปัญหาสูญเสียงานมากที่สุดด้วย
ศาสตราจารย์ Rodgers ตั้งข้อสังเกตว่า คนงานในสหรัฐฯ ที่ต้องเปลี่ยนงาน มักต้องเปลี่ยนอาชีพ และรับค่าจ้างที่ต่ำกว่าเดิม ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาเมื่อมีการย้ายงานจำนวนมาก จนนำไปสู่การเกิดปัญหาแรงงานล้นตลาดในบางอุตสาหกรรม และว่าหากความต้องการด้านแรงงานไม่เพิ่มขึ้นรวดเร็วมากพอ ค่าแรงก็จะเริ่มลดลง
ศาสตราจารย์ Rodgers เรียกร้องให้บรรดานายจ้างพัฒนามาตรการที่ดีขึ้นในการให้ความช่วยเหลือพนักงานที่ต้องเปลี่ยนงาน หากพบวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คนงานที่ถูกหุ่นยนต์แย่งงานอาจสามารถลงเอยด้วยการได้ทำงานในตำแหน่งที่จ่ายค่าจ้างสูงกว่าเดิม โปรแกรมให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ตกงานควรให้ความรู้ตลอดจนการฝึกอบรมเพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานเหล่านั้นสำหรับเส้นทางอาชีพสายใหม่ และในตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเตรียมตัวรับมือกับแรงงานหุ่นยนต์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น