ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกำลังคุกคามประเทศเกาะทั้งหลาย


ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกำลังคุกคามประเทศเกาะทั้งหลาย
ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกำลังคุกคามประเทศเกาะทั้งหลาย

ในการประชุมที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียจัดขึ้นในนครนิวยอร์คเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิชาการ นักการทูต และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ถกอภิปรายกันเกี่ยวกับคำถามต่าง ๆ ในแง่มุมทางกฏหมายที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่บรรดาประเทศเกาะที่เสี่ยงอันตรายจากการที่ระดับน้ำทะเลกำลังสูงขึ้นประสบอยู่ รวมทั้งเรื่องที่ว่า หากประเทศหนึ่งประเทศใดเกิดมีอันต้องจมอยู่ใต้น้ำทะเล จะเกิดอะไรขึ้นกับอธิปไตยของประเทศนั้น

ในระยะไม่กี่สิบปีมานี้ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นปีละหลายมิลลิเมตร และตอนนี้มีท่าทางว่าจะสูงขึ้นปีละหลายเซ็นติเมตรหรือมากกว่านั้น ซึ่งอาจท่วมเกาะทั้งหลายให้จมอยู่ใต้ทะเลได้

การประชุมเรื่อง “ประเทศเกาะที่ตกอยู่ในอันตราย” ที่คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยโคลัมเบียจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ พิจารณาเกี่ยวกับแง่มุมทางกฏหมายด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงนั้น

ศาสตราจารย์ Rosemary Rayfuse แห่งคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ของออสเตรเลียกล่าวว่า การรับรองอธิปไตยในการให้สัญชาติความเป็นพลเมือง สถานภาพทางการทูต สิทธิในทรัพยากรแร่ธาตุ และสิทธิพิเศษอื่น ๆ แห่งการเป็นประเทศชาตินั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากคือ ขณะที่มีระเบียบกฏเกณฑ์เกี่ยวกับการก่อตั้งประเทศ แต่ไม่มีระเบียบกฏเกณฑ์เกี่ยวกับประเทศที่จมหายไปจากพื้นผิวโลก

หากประเทศเกาะประเทศหนึ่งประเทศใดเกิดจมหายไปในมหาสมุทร ประเทศนั้นจะยังคงมีสมาชิกภาพในองค์การสหประชาชาติอยู่หรือไม่ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเป็นพลเมืองของประเทศนั้น พลเมืองของประเทศนั้นจะยังคงใช้หนังสือเดินทางของประเทศตนได้หรือไม่ ใครจะเป็นผู้อ้างสิทธิและดำเนินการตามสิทธิในทรัพยากรแร่ธาตุและสิทธิในการประมงในน่านน้ำโดยรอบประเทศเกาะที่จมหายไป

กฏหมายระหว่างประเทศในขณะนี้ ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามดังกล่าว

เอกอัครรัฐทูต Phillip Muller แห่งหมู่เกาะมาร์แชลส์ กล่าวว่า ยังไม่มีความรู้สึกเร่งด่วนใด ๆ เลย ในการที่จะหาคำตอบ และสำหรับการจัดการกับสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เขากล่าววา บรรดาผู้มีบทบาทสำคัญไม่ได้อยู่ในกระบวนการดำเนินงาน ผู้ร่วมการประชุมกล่าวว่า ผู้มีบทบาทเหล่านั้น รวมทั้งบรรดาประเทศอุตสาหกรรมอย่างสหรัฐและจีน ที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และกาซอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดสภาพแบบในเรือนกระจกปลูกพืชส่วนใหญ่

Mary-Elena Carr แห่ง Earth Institute ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นปีละไม่กี่มิลลิเมตรตอนนี้ จะสูงขึ้นอย่างมากภายในปี 2563 หรือในอีกราว 90 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจถึง 1 เมตรเป็นอย่างน้อย หรือมากกว่านั้น

Jenny Grote Stoutenburg นักวิชาการด้านกฏหมายที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียกล่าวชี้ว่า เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์เรื่องความรับผิดชอบสำหรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ก็เห็นว่า แม้จะยังไม่มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฏหมาย ประเทศต่าง ๆ ก็ควรยอมรับผิดชอบสำหรับการใช้บรรยากาศของโลกอย่างไม่ได้สัดส่วน และรับรองประเทศเกาะทั้งหลาย โดยตระหนักในความยุติธรรมและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างประเทศ

เอกอัครรัฐทูต Antonio Lima แห่งหมู่เกาะเคปเวิร์ด เตือนว่า ถ้าหากประชาชนในประเทศใหญ่ ๆ ไม่ช่วยประเทศเกาะเล็กเหล่านี้แล้ว ก็จะเท่ากับเป็นการกำหนดชตากรรมแบบเดียวกันนี้ให้แก่ตนเอง เขากล่าวว่า ประเทศเกาะนั้นเป็นสัญญลักขณ์แห่งการเริ่มต้นและการยุติของโลก สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศเกาะ จะเกิดขึ้นกับส่วนอื่น ๆ ของโลกในเวลาต่อไป และเวลาที่แปรเปลี่ยนชตากรรมกำลังจะหมดลง

นักวิทยาศาสตร์คาดทำนายว่า เพราะการที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณชายฝั่ง จะเผชิญภัยคุกคามอย่างเดียวกับที่ประชาชนประเทศเกาะเล็ก ๆ กำลังเผชิญอยู่

การประชุมที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียไม่ได้ตอบคำถามที่ตั้งขึ้นมา แต่ก็เป็นการท้าทายทางศีลธรรมให้ประชาคมโลกดำเนินมาตรการคุ้มครองป้องกันประเทศเกาะทั้งหลายไม่ให้ต้องจมอยู่ใต้ทะเล

XS
SM
MD
LG