คนอเมริกันที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง 71 ล้านคน ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าเพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ก่อนวันเลือกตั้งจริงคือวันที่ 3 พฤศจิกายน ถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดเป็นสถิติใหม่ และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมดในการเลือกตั้ง 4 ปีที่แล้วที่มีผู้ลงคะแนน 138.8 ล้านคน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี ค.ศ. 2020 จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 150 ล้านคน หรือราว 65% ของคนอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908
2 ใน 3 ของการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นการลงคะแนนทางไปรษณีย์ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะกับคนจำนวนมากในวันเลือกตั้งจริงและการต่อแถวยาวนานหลายชั่วโมง สืบเนื่องจากมาตรการที่รัฐต่าง ๆ นำมาใช้ในการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส
หากแยกเป็นพรรค รายงานพบว่า ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่นิยมลงคะแนนล่วงหน้าหรือลงคะแนนทางไปรษณีย์ ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันจำนวนมากยังนิยมไปลงคะแนนด้วยตัวเองในวันเลือกตั้งจริง คือ 3 พฤศจิกายน โดยรายงานชี้ว่า ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่าผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันในอัตรา 2 ต่อ 1
ในส่วนของผู้สมัครจากทั้งสองพรรคยังคงเดินสายหาเสียงอย่างแข็งขันตามรัฐสมรภูมิที่ต้องพยายามแย่งชิงคะแนนเสียงกันให้ได้
ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และ ส.ว.คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ต่างเดินทางไปหาเสียงที่รัฐแอริโซนาในวันพุธ โดยทรัมป์จะจัดการปราศรัยหาเสียงที่เมืองบุลเฮดซิตี้ และเมืองกู้ดเยียร์ ขณะที่ ส.ว.แฮร์ริส จะพบปะกับบรรดาเจ้าของธุรกิจเชื้อสายละตินอเมริกาที่เมืองทูซอน และกลุ่มผู้นำคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่เมืองฟีนิกซ์
เมื่อ 4 ปีก่อน ปธน.ทรัมป์ ได้รับชัยชนะที่รัฐแอริโซนา ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรครีพับลิกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 แต่ขณะนี้ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมเหนือผู้นำสหรัฐฯ เล็กน้อยที่รัฐนี้
สำหรับผลการสำรวจแบบทั่วประเทศแสดงให้เห็นว่า นายไบเดนมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์ 7 - 8% ส่วนในรัฐสำคัญที่อาจชี้ขาดผลการเลือกตั้ง หรือ battleground states นายไบเดนมีคะแนนนำประมาณ 3 - 4% เท่านั้น