ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวหาโลกตะวันตกในวันพฤหัสบดีว่ากำลังสร้างความเสี่ยงให้เกิดความขัดเเย้งระดับโลก และบอกด้วยว่าจะไม่มีใครที่สามารถมาข่มขู่มหาอำนาจนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดอย่างรัสเซียได้
ถ้อยเเถลงดังกล่าวมีขึ้นเมื่อรัสเซียรำลึกวันแห่งชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง
ปูตินยังได้กล่าวหาว่าผู้นำโลกตะวันตกทำตัว 'หยิ่งยโส' และกำลังโหมความขัดเเย้งในโลก โดยลืมไปว่ารัสเซียมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนี
ในเวลาเดียวกันนี้ ทหารรัสเซียยังคงต่อสู้กับกองกำลังของยูเครน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโลกตะวันตก
ปูตินกล่าวด้วยว่า "เราทราบกันดีว่าความทะเยอทะยานเกินพิกัดจะนำไปสู่อะไร รัสเซียจะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะกันระดับโลก"
เขากล่าวถ้อยเเถลงนี้ที่จตุรัสเเดง หลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเซอร์เก ชอยกู ตรวจเหล่าทหาร
"ในเวลาเดียวกันเราจะไม่ปล่อยให้ใครมาข่มขู่เรา กองกำลังทางยุทธศาสตร์ของเรามีความพร้อมรบเสมอ" ปูตินกล่าว
ปูตินผู้ซึ่งส่งทหารบุกยูเครนในปี 2022 ระบุว่าสงครามนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของโลกตะวันตก ที่เขาคิดว่าต้องการทำให้รัสเซียอับอาย ด้วยการขยายอิทธิพลเข้ามา หลังปี 1989 ที่กำเเพงเบอร์ลินถูกทำลายลง
แต่สำหรับยูเครนและโลกตะวันตก ปูตินกำลังผนวกพื้นที่มาเป็นของรัสเซียในรูปแบบคล้ายจักรวรรดินิยม โดยในเวลานี้รัสเซียควบคุมพื้นที่ 18% ในยูเครน
รัฐบาลมอสโกกล่าวว่าพื้นที่เหล่านั้นได้กลับมาเป็นของรัสเซียอีกครั้ง หลังจากที่เคยอยู่ในจักรวรรดิรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ยูเครนและโลกตะวันตกตั้งเป้าที่จะเอาชนะรัสเซียให้ได้
ในสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวรัสเซียเสียชีวิตไปทั้งหมด 27 ล้านคน ซึ่งหลายล้านคนอยู่ในยูเครน แต่ในที่สุดก็สามารถชนะฝ่ายนาซี ซึ่งต้องถอยไปที่กรุงเบอร์ลิน และฮิตเลอร์ปลิดชีพตนเองที่นั่น
ปูตินกล่าวว่ารัสเซียให้เกียรติพันธมิตรทุกประเทศที่ร่วมกันต่อสู้จนชนะนาซีเยอรมนี เขายังได้กล่าวถึงการต่อสู้ของจีนที่ต้านลัทธิทหารนิยมของญี่ปุ่น
การปราชัยของนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง เกิดขึ้นเวลา 23:01 น. ของวันที่ 8 พ.ค. 1945 ซึ่งถูกเรียกว่า "Victory in Europe Day" โดยฝรั่งเศส อังกฤษและสหรัฐฯ
ณ ชั่วโมงดังกล่าว เป็นวันที่ 9 พ.ค. แล้วที่กรุงมอสโก โดยรัสเซียเรียกวันนั้นว่า "Victory Day" แห่งสงครามรักชาติ the Great Patriotic War of 1941-45
ที่งานวันพฤหัสบดีปีนี้ ไม่มีผู้นำโลกตะวันตกเข้าร่วม แต่มีผู้นำจากประเทศเบลารุส คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาย คิวบา ลาว และกินีบิสเซา เป็นเเขกในพิธี
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น