ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวโทษชาติตะวันตกอีกครั้งในวันจันทร์ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ตนต้องตัดสินใจส่งกำลังทหารบุกรุกยูเครน โดยระบุว่า "รัสเซียกระทำการเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิงตรงชายแดนของเรา"
คำกล่าวของผู้นำรัสเซียมีขึ้นระหว่างพิธีสวนสนามของทหารรัสเซียเนื่องในวันรำลึกถึงชัยชนะของรัสเซียเหนือกองทัพนาซีเยอรมันเมื่อปี ค.ศ. 1945 หรือ Victory Day ซึ่งตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า "องค์การนาโต้ไม่ต้องการรับฟังข้อเรียกร้องของรัสเซีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีแผนที่แตกต่างออกไป ซึ่งเรามองเห็นได้" และว่า "ขณะนั้นมีการเตรียมพร้อมเพื่อใช้ปฏิบัติการในแคว้นดอนบาส และการบุกรุกดินแดนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเรา รวมทั้งแคว้นไครเมีย"
ประธานาธิบดีรัสเซียยังได้เปรียบเทียบกองกำลังของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับกองทัพรัสเซียที่ปฏิบัติการในยูเครน โดยระบุว่า การบุกยูเครนนั้นเป็นการ "กำจัดความเป็นนาซี" ในยูเครน
ทางด้านที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน มีไคโล โปโดลีแอก ทวีตตอบโต้ว่า ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่รัสเซียนำมากล่าวอ้างในการบุกรุกยูเครนได้ นอกจาก "ความทะเยอทะยานที่น่ารังเกียจในการสร้างจักรวรรดิขึ้นใหม่" และยืนยันว่า "ประเทศสมาชิกองค์การนาโต้ไม่เคยมีแผนโจมตีรัสเซีย" "ยูเครนไม่มีแผนโจมตีไครเมีย" "กองทัพรัสเซียกำลังล้มตายจากความพยายามยึดครองประเทศอื่น ไม่ใช่ปกป้องประเทศตัวเอง"
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุในวันจันทร์ว่า "ไม่มีความสงสัยเลยว่ายูเครนจะต้องได้รับชัยชนะในที่สุด" และว่า "วันนี้ชาวยูเครนร่วมเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะเหนือกองทัพนาซี เราภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของเราที่ได้จับมือกับนานาประเทศในการต่อต้านฮิตเลอร์และกำราบนาซี และเราจะไม่ยอมให้ใครมายึดเอาชัยชนะนี้ไปได้"
ประธานาธิบดีเซเลนสกีประกาศว่า "เราชนะในคราวนั้น และเราจะชนะในคราวนี้เช่นกัน"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์