ปูตินกร้าว จะลงโทษยูเครน สืบเนื่องเหตุโจมตีในช่วงวันเลือกตั้ง

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียที่กำลังอยู่บนเส้นทางการสืบทอดอำนาจต่อไปอีกหกปี ประกาศในวันศุกร์ว่าจะลงโทษยูเครนสำหรับเหตุโจมตีในช่วงวันเลือกตั้ง ตามการรายงานของรอยเตอร์

การเลือกตั้งในประเทศที่มีกว้างใหญ่ ครอบคลุมเขตเวลา (ไทม์โซน) รวม 11 เขตนี้ ดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศสงครามการสู้รบกับยูเครน ที่ปูตินระบุว่ามีการยิงปืนใหญ่โจมตีรัสเซียที่ชายแดนฝั่งตะวันตก และมีกองกำลังตัวแทนของยูเครนจำนวน 2,500 นาย พยายามข้ามแดนเข้ามาด้วยรถถัง

ปูติน กล่าวด้วยอาการโกรธ ระหว่างประชุมกับสภาความมั่นคงรัสเซียว่า “การโจมตีของศัตรูจะไม่ผ่านไปโดยไม่ได้รับการลงโทษ”

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเกิดจากกลุ่มติดอาวุธสัญชาติรัสเซียที่มีฐานปฏิบัติอยู่ในยูเครนและมีจุดยืนต่อต้านรัฐบาลเครมลิน

เจ้าหน้าที่จากยูเครนยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ การโจมตีของรัสเซียใส่เมืองท่าโอเดสซา ได้สังหารประชาชนไปอย่างน้อย 20 ราย และบาดเจ็บอีกมากกว่า 70 คน ซึ่งถือเป็นการโจมตีจากรัสเซียที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ โดยโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่ารัสเซียจะได้รับ “การตอบโต้อย่างสาสม”

ปูติน ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 71 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีในรัสเซียในแบบที่ผู้ลงสมัครที่เหลืออีกสามราย ไม่ถือเป็นปัจจัยท้าทายอะไรในการครองอำนาจสูงสุดต่อไป สะท้อนถึงการมีอิทธิพลเหนือภูมิทัศน์ทางการเมืองของรัสเซีย แม้ในช่วงเวลาที่สงครามกับยูเครนดำเนินมายาวนานเกินสองปีแล้วก็ตาม

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีชาวรัสเซียที่สามารถใช้สิทธิ์ออกเสียงได้มากกว่า 114 ล้านคน ซึ่งหมายรวมถึงประชาชนในสี่พื้นที่ที่รัสเซียยึดมาจากยูเครน

ในวันแรกของการเลือกตั้ง มีประชาชนชาวรัสเซียมาใช้สิทธิ์แล้วมากกว่า 35% โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ประชาชนจำนวนหนึ่งในสามสามารถใช้สิทธิ์เลือกตั้งบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ายากต่อการตรวจสอบ และง่ายต่อการใช้งานในทางมิชอบ

สตานิสลาฟ อันเดรชุค ประธานร่วมของกลุ่มจับตาการเลือกตั้ง โกโลส (Golos) กล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ “ปิดและเป็นความลับที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย”

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งที่จะใช้เวลารวมทั้งสิ้นสามวัน ต้องเจอกับเหตุปั่นป่วนตั้งแต่วันแรก โดยสื่อรัสเซียรายงานว่า มีการเทสีใส่กล่องลงคะแนนเสียงในกรุงมอสโก แคว้นไครเมีย และเขตการปกครองคาราชาเยโว-ซีร์คัสเซีย ซึ่งมองได้ว่าเป็นการแสดงออกเพื่อต่อต้านรัฐบาลเครมลิน

นอกจากนั้นยังมีการปาระเบิดขวดใส่คูหาเลือกตั้งในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของปูติน สำนักข่าวฟอนทานการายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมหญิงอายุ 21 ปีรายหนึ่งสืบเนื่องจากเหตุดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีรายงานความพยายามจุดไฟเผาคูหาเลือกตั้งในกรุงมอสโกและไซบีเรียอีกด้วย

ประธานกรรมการการเลือกตั้งของรัสเซีย เอลลา แพมฟิโลวา กล่าวว่าผู้ขัดขวางกระบวนการเลือกตั้งจะได้รับโทษจำคุกสูงสุดห้าปี

รัฐบาลเครมลินระบุว่าปูติน ซึ่งครองอำนาจทางการเมืองในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 1999 จะยังคงได้รับการสนับสนุนให้มีอำนาจต่อไป ในฐานะผู้ที่นำพารัสเซียกลับมายืนหยัดต่อสู้กับชาติตะวันตกที่เหิมเกริมและโหดร้ายได้หลังสหภาพโซเวียตล่มสลาย

• ที่มา: รอยเตอร์