ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ยุโรปและเอเชียปรับตัวอยู่ในแดนบวก ต้อนรับข่าว FBI ไม่ฟ้องคลินตั้น
ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ยุโรปและเอเชีย ปรับตัวอยู่ในแดนบวก ต้อนรับข่าวหน่วยงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ตัดสินใจไม่เสนอให้รัฐบาลดำเนินคดีนางฮิลลารี่ คลินตั้น กรณีการใช้อีเมล์ส่วนตัวของเธอขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้หุ้นสหรัฐฯ ลงติดต่อกันยาวนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ FBI กล่าวว่าพบอีเมล์เพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว ซึ่งทำให้ต้องมีการเปิดสำนวนการสืบสวนใหม่อีกครั้ง แม้ว่า FBI เคยสรุปไปแล้วว่าคลินตั้นไม่ผิดทางอาญาเมื่อเดือนกรกฎาคม
ดูเหมือนนักลงทุนทั่วโลกไม่สบายใจ ว่าบรรยากาศการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด หากโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้ และได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป
แต่หลังข่าวการตัดสินไม่ฟ้องนางฮิลลารี คลินตั้น ครั้งล่าสุด ดัชนี S&P, Nasdaq และ Dow Jones ของสหรัฐฯ ต่างปิดบวกมากกว่า 2% ทั้งสิ้น ส่วนดัชนีสำคัญในเช่น Euro Stoxx 50 ของยุโรปและ Nikkei และ Hang Seng ในเอเชียต่างปรับตัวไปในทิศทางเดียวกัน
อีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์จาก Citigroup คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจร่วง 5% หากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง
สำนักข่าวรอยเตอรส์รายงานว่า นักวิเคราะห์จาก Citigroup คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจลดลง 3% ถึง 5% หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้
คนในวงการการเงินเชื่อว่า นางฮิลลารี่ คลินตั้น คู่แข่งของทรัมป์ จะมีนโยบายที่คาดการณ์ได้มากกว่า และตามปกติแล้วนักลงทุนไม่ชอบสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก
ธนาคารและบริษัทวาณิชธนกิจของสหรัฐฯ ใหญ่ๆ หลายแห่ง เช่น Morgan Stanley, JP Morgan Chase และ Goldman Sachs กำลังเตรียมรับมือการความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม บทเรียนของการพลิกโผเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ประชาชนอังกฤษส่วนใหญ่ลงประชามติให้ประเทศของตนออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ซึ่งในครั้งนั้น ดัชนีหุ้น S&P สหรัฐฯ ลดลง 3.8%
รอยเตอร์สรายงานว่า Morgan Stanley บอกให้เจ้าหน้าที่ค้าหลักทรัพย์เตรียมตัวใช้ระบบขายตัดขาดทุนแบบอัตโนมัติ หากว่าหุ้นลงต่ำถึงจุดที่กำหนดไว้ เนื่องจากผลการเลือกตั้งพรุ่งนี้