นักวิจัยอเมริกันชี้ว่าการเน้นความเข้าใจในตัวหนังสือกับคำศัพท์ขณะอ่านหนังสือให้เด็กเล็กก่อนวัยเรียนฟังจะช่วยให้เด็กกลายเป็นนักอ่านที่ดีในอนาคต
คุณครูและผู้ปกครองโดยทั่วไปมักมุ่งให้เด็กใส่ใจกับภาพประกอบในหนังสือที่อ่านให้เด็กๆฟังเป็นหลัก แต่ผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้กลับพบว่าการมุ่งให้เ็ด็กสนใจที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ที่ปรากฏบนหน้าหนังสือที่อ่านในแต่ละหน้ากลับช่วยให้เด็กอ่านหนังสือได้ดีขึ้น
การศึกษานี้จัดทำในระยะเวลานานสองปี ทำการเปรียบเทียบคุณภาพการอ่านของเด็กนักเรียนที่คุณครูอ่านหนังสือให้ฟังในห้องเรียนด้วยวิธีเน้นความสนใจที่ตัวหนังสือและคำศัทพ์ กับ เด็กนักเรียนที่ครูเน้นภาพประกอบในหนังสือ ผลปรากฏว่าเด็กนักเรียนกลุ่มแรกที่มุ่งความสนใจไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์มีความสามารถในการอ่าน การสะกดคำแลสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ผลลัพท์จากวิธีการอ่านแบบนีเริ่มเห็นผลในระยะหนึ่งถึงสองปีให้หลัง
คุณเชน ปิเอสต้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการสอนและการเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัย Ohio State University เป็นหัวหน้าทีมวิจัยเรื่องนี้ เธอกล่าวว่าวีธีการสอนแบบใหม่นี้ง่ายสำหรับครูผู้สอนเด็กเล็กก่อนวัยเรียน และต้องปรับเปลี่ยนแนวการเรียนการสอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ครูอ่านหนังสือเรื่องราวต่างๆให้เด็กๆฟังอยู่แล้วในห้องเรียน แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือการเพิ่มความสนใจไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ในหนังสือเท่านั้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิเอสต้ากล่าวว่าหากเรามุ่งความสนใจของเด็กไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ เด็กจะสามารถจดจำคำศัพท์และการสะกดได้ดีขึ้น การวิจัยครั้งนี้พบว่ามีผู้ปกครองและครูเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อ่านหนังสือให้เด็กฟังแบบนี้
ผลการวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์เมื่อเร็วๆนี้ในวารสาร Child Development ในการศึกษา ทีมนักวิจัยทำการเฝ้าสังเกตุการเรียนการสอนเด็กนักเรียนอายุ 4 และ 5 ขวบจำนวน 300 คนในห้องเรียนต่างๆในรัฐโอไฮโอ้และรัฐเวอร์จีเนีย เด็กเล็กเหล่านี้มาจากครอบครัวยากจนและมีความสามารถด้านภาษาต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นกลุ่มเด็กที่เสี่ยงที่จะมีปัญหาด้านการอ่านในเวลาต่อมา
เด็กเล็กเหล่านี้เข้าร่วมในโครงการที่เรียกว่า Project STAR ที่ย่อมากจาก Sit Together And Read โครงการนี้มีศูนย์อยู่ที่รัฐโอไฮโอ้ ทำการทดสอบความสามารถในการอ่านในระยะสั้นและผลในระยะยาวของเด็กเล็กก่อนวัยเรียนในห้องเรียนเป็นระจำ
ศาสตราจารย์ลอร่า จัสติส เจ้าหน้าที่โครงการนี้ที่รัฐโอไฮโอ้เป็นผู้วิเคราะห์ผลการวิจัยนี้ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าการวิจัยนี้ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ตัวหนังสือและคำศัพท์ช่วยปรับปรุงการเรียนรู้ของเด็กเล็กได้ดีขึ้น
เธอเห็นว่าผู้ใหญ่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้นี้ได้ด้วยการให้เด็กได้ถกประเด็นต่างๆที่ตั้งเอาไว้อย่างชัดเจนขณะอ่านหนังสือให้เด็กฟัง
ศาสตราจารย์จัสติสกล่าวว่าผู้ใหญ่สามารถเน้นความสนใจของเด็กๆไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ได้หลายทาง อย่างแรก อาจใช้วิธีชี้ไปที่ตัวหนังสือแล้วพูดคุยเกี่ยวกับตัวหนังสือนั้นๆ และ อาจจะใช้นิ้วลากตามเส้นตัวหนังสือให้เด็กดู นอกจากนี้ครูและผู้ปกครองยังสามารถพูดคุยให้เด็กๆฟังถึงการเขียนคำแต่ละคำเพื่อให้เด็กเห็นว่าภาษาอังกฤษเขียนจากซ้ายไปขวา เป็นต้น ซึ่งก็เหมือนกับภาษาไทยที่เขียนจากซ้ายไปขวาเช่นกัน
คุณครูและผู้ปกครองโดยทั่วไปมักมุ่งให้เด็กใส่ใจกับภาพประกอบในหนังสือที่อ่านให้เด็กๆฟังเป็นหลัก แต่ผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้กลับพบว่าการมุ่งให้เ็ด็กสนใจที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ที่ปรากฏบนหน้าหนังสือที่อ่านในแต่ละหน้ากลับช่วยให้เด็กอ่านหนังสือได้ดีขึ้น
การศึกษานี้จัดทำในระยะเวลานานสองปี ทำการเปรียบเทียบคุณภาพการอ่านของเด็กนักเรียนที่คุณครูอ่านหนังสือให้ฟังในห้องเรียนด้วยวิธีเน้นความสนใจที่ตัวหนังสือและคำศัทพ์ กับ เด็กนักเรียนที่ครูเน้นภาพประกอบในหนังสือ ผลปรากฏว่าเด็กนักเรียนกลุ่มแรกที่มุ่งความสนใจไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์มีความสามารถในการอ่าน การสะกดคำแลสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ผลลัพท์จากวิธีการอ่านแบบนีเริ่มเห็นผลในระยะหนึ่งถึงสองปีให้หลัง
คุณเชน ปิเอสต้า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการสอนและการเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัย Ohio State University เป็นหัวหน้าทีมวิจัยเรื่องนี้ เธอกล่าวว่าวีธีการสอนแบบใหม่นี้ง่ายสำหรับครูผู้สอนเด็กเล็กก่อนวัยเรียน และต้องปรับเปลี่ยนแนวการเรียนการสอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ครูอ่านหนังสือเรื่องราวต่างๆให้เด็กๆฟังอยู่แล้วในห้องเรียน แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือการเพิ่มความสนใจไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ในหนังสือเท่านั้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปิเอสต้ากล่าวว่าหากเรามุ่งความสนใจของเด็กไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ เด็กจะสามารถจดจำคำศัพท์และการสะกดได้ดีขึ้น การวิจัยครั้งนี้พบว่ามีผู้ปกครองและครูเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อ่านหนังสือให้เด็กฟังแบบนี้
ผลการวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์เมื่อเร็วๆนี้ในวารสาร Child Development ในการศึกษา ทีมนักวิจัยทำการเฝ้าสังเกตุการเรียนการสอนเด็กนักเรียนอายุ 4 และ 5 ขวบจำนวน 300 คนในห้องเรียนต่างๆในรัฐโอไฮโอ้และรัฐเวอร์จีเนีย เด็กเล็กเหล่านี้มาจากครอบครัวยากจนและมีความสามารถด้านภาษาต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นกลุ่มเด็กที่เสี่ยงที่จะมีปัญหาด้านการอ่านในเวลาต่อมา
เด็กเล็กเหล่านี้เข้าร่วมในโครงการที่เรียกว่า Project STAR ที่ย่อมากจาก Sit Together And Read โครงการนี้มีศูนย์อยู่ที่รัฐโอไฮโอ้ ทำการทดสอบความสามารถในการอ่านในระยะสั้นและผลในระยะยาวของเด็กเล็กก่อนวัยเรียนในห้องเรียนเป็นระจำ
ศาสตราจารย์ลอร่า จัสติส เจ้าหน้าที่โครงการนี้ที่รัฐโอไฮโอ้เป็นผู้วิเคราะห์ผลการวิจัยนี้ เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าการวิจัยนี้ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนแล้วว่าการส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ตัวหนังสือและคำศัพท์ช่วยปรับปรุงการเรียนรู้ของเด็กเล็กได้ดีขึ้น
เธอเห็นว่าผู้ใหญ่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้นี้ได้ด้วยการให้เด็กได้ถกประเด็นต่างๆที่ตั้งเอาไว้อย่างชัดเจนขณะอ่านหนังสือให้เด็กฟัง
ศาสตราจารย์จัสติสกล่าวว่าผู้ใหญ่สามารถเน้นความสนใจของเด็กๆไปที่ตัวหนังสือและคำศัพท์ได้หลายทาง อย่างแรก อาจใช้วิธีชี้ไปที่ตัวหนังสือแล้วพูดคุยเกี่ยวกับตัวหนังสือนั้นๆ และ อาจจะใช้นิ้วลากตามเส้นตัวหนังสือให้เด็กดู นอกจากนี้ครูและผู้ปกครองยังสามารถพูดคุยให้เด็กๆฟังถึงการเขียนคำแต่ละคำเพื่อให้เด็กเห็นว่าภาษาอังกฤษเขียนจากซ้ายไปขวา เป็นต้น ซึ่งก็เหมือนกับภาษาไทยที่เขียนจากซ้ายไปขวาเช่นกัน