สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จำนวนมากยื่นเรื่องของความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลซึ่งมีจุดมุ่งหมายเอาไว้ช่วยธุรกิจขนาดเล็ก และแม้จะได้รับคำเตือนให้ส่งเงินคืน หลายบริษัทยังยืนยันว่าตนมีเหตุผลถูกต้องตามกฎที่จะรับความช่วยเหลือดังกล่าว
รายงานข่าวที่อ้างข้อมูลจากบริษัทวิจัย FactSquared ระบุว่า กว่า 4 ใน 5 ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลที่มีไว้สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และบริษัทเหล่านี้ที่ไม่ควรจะขอรับความช่วยเหลือดังกล่าวเนื่องจากยังมีทรัพยากรที่จะดูแลตนเองได้ มีกำหนดต้องส่งเงินคืนภายในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก FactSquared ณ วันที่ 22 พฤษภาคม ระบุว่า มีเพียง 68 บริษัททำการส่งเงินกู้จำนวน 435.8 ล้านดอลลาร์คืน ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติเงินช่วยเหลือรวม 13,500 ล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัทมหาชนดังกล่าวไป 424 แห่ง ภายใต้มาตรการ Paycheck Protection Program (PPP) ที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือประชาชนและธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยสภาคองเกรส
รอยเตอร์สศึกษารายงานการเงินของบริษัททั้งหมดและรายงานว่า บริษัทราว 76 แห่งที่ได้รับเงินช่วยเหลือมีเงินสดที่จะดำเนินกิจการได้อย่างน้อยถึงเดือนมิถุนายน ขณะที่มี 22 แห่งที่ได้รับเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และองค์กรบริหารจัดการธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ (Small Business Administration – SBA) ที่มีหน้าที่รับผิดชอบมาตรการนี้ กล่าวว่าจะมีการทบทวนพิจารณาเงินช่วยเหลือที่มีมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์เพื่อให้แน่ใจว่า ธุรกิจที่ได้รับเงินกู้นี้ไปมีความจำเป็นจริงๆ
ทั้งนี้ มาตรการ PPP ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและนักการเมืองจำนวนหนึ่ง เพราะยอมให้บริษัทมหาชนสามารถยื่นเรื่องของความช่วยเหลือจากรัฐได้