นายกเทศมนตรีจาก 6 เมืองที่มีการชุมนุมของผู้ประท้วงร้องขอให้สภาคองเกรสสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเข้าดูแลสถานการณ์หากไม่ได้รับอนุญาติจากทางการท้องถิ่น หลังเกิดเหตุพยายามต่อเนื่องในการสลายการชุมนุมที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ซึ่งเป็นจุดประท้วงการเรียกร้องความยุติธรรมในสังคมที่ยืดเยื้อ ด้วยการใช้แก๊สน้ำตา ระเบิดแสง และสเปรย์พริกไทย ในวันจันทร์
นายกเทศมนตรีจากพอร์ตแลนด์ ซีแอตเติล ชิคาโก แคนซัสซิตี้ อัลบูเคอร์คี และกรุงวอชิงตัน ร่วมกันส่งหนังสือให้กับผู้นำวุฒิสภาและผู้นำสภาล่าง ที่ระบุว่า การที่รัฐบาลชุดปัจจุบันส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาในพื้นที่เมืองดังกล่าวเพื่อจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง แม้จะถูกคัดค้านโดยทางการท้องถิ่น “เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง” โดยทั้งหมดเรียกร้องให้สภาคองเกรสประกาศให้การใช้กำลังของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในพื้นที่ของตนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย
การเดินหน้าปฏิเสธการใช้กำลังของรัฐบาลกลางครั้งนี้เกิดขึ้น หลังมีรายงานเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและผู้ชุมนุม ที่ศาลรัฐบาลกลางที่เมืองพอร์ตแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่รวมตัวกันของผู้เรียกร้องความยุติธรรมในสังคม มาอย่างต่อเนื่องหลังการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันผิวดำ ขณะถูกตำรวจผิวขาวจับกุมตัวที่รัฐมินนิโซตา เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นผู้สั่งการส่งเจ้าหน้าที่ไปที่พอร์ตแลนด์ เพื่อยุติการประท้วง ทวีตข้อความในวันจันทร์ที่ระบุว่า ทรัพย์สินของรัฐบาลกลางในเมืองนี้จะย่อยยับภายในวันเดียว หากไม่ได้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเข้าไปช่วยดูแล ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าคนที่ฝ่ายรัฐบาลกลางส่งมาต่างหากที่ทำให้สถานการย่ำแย่ลง
ก่อนหน้านี้ ในวันอาทิตย์การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ แต่เมื่อถึงเวลาตีหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเดินหน้าเคลียร์พื้นที่หลังประกาศว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นไปอย่างผิดกฎหมาย
ในคืนวันอาทิตย์เช่นกัน เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีคนจ่อมือที่คลุมด้วยถุงมาที่ตำรวจ ณ สวนสาธารณะเห่งหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่พบส่วนประกอบปืนกลที่บรรจุกระสุนและระเบิดเพลิง แต่ผู้สื่อข่าวระบุว่าเป็นการยากที่จะชี้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เชื่อมโยงกับการประท้วงหรือไม่
ทั้งนี้ ผู้คนจำนวนมากถูกควบคุมตัว แต่ไม่เป็นที่ทราบแน่นชัดว่ามีจำนวนเท่าใดที่ถูกตำรวจจับกุมตัว
