สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ร่วมกันต่อสู้และแก้ไขปัญหาการบังคับใช้แรงงานเด็ก เพราะเด็กควรจะมีโอกาสได้วิ่งเล่น แทนที่จะต้องมาทำงานเยี่ยงผู้ใหญ่ หรือออกไปคุ้ยกองขยะเพื่อหาของมาขายทำเงิน
ในระหว่างที่ทรงพบปะกับประชาชนในสัปดาห์นี้ สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับปัญหาการใช้แรงงานเด็กในหลายประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งทรงระบุว่า “เป็นเรื่องที่เลวร้าย” ที่เด็กๆ ต้องกลายมาเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่เช่นนั้น
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ร่วมจัดทำรายงานกับกองทุนเพื่อเด็กเเห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ซึ่งระบุว่า ความพยายามยุติการใช้แรงงานเด็กนั้นต้องประสบปัญหาหยุดชะงักเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ทำให้ความสำเร็จที่ผ่านมาถดถอยไปทันที
สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระดำรัสด้วยว่า การที่ความพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวไม่คืบหน้า ถือเป็น “ความอยุติธรรมทางสังคม” และทรงชี้ว่า แม้งานการกุศลและการบริจาคสิ่งของให้ผู้ที่ตกงานเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ แต่สิ่งที่ได้จากสิ่งเหล่านั้นคือทำให้คนอิ่มท้อง แต่ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมีศักดิ์ศรีของผู้คนเลย
พระองค์ยังทรงย้ำด้วยว่า รัฐบาลทั้งหลายต้องทำให้ทุกคนมีโอกาสที่จะทำงานแลกกับอาหาร เพราะนั่นจะทำให้คนเหล่านั้นมีศักดิ์ศรี
ทั้งนี้ รายงานของ ILO ระบุว่า แอฟริกาคือภูมิภาคที่มีประชากรแรงงานเด็กมากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขราว 72 ล้านคน โดย 43% ของเด็กเหล่านั้นถูกบังคับให้ทำงานที่อันตรายเสี่ยงภัย
และในระหว่างการพบปะประชาชนเมื่อวันพุธ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงขอให้ทุกคนสงบนิ่งเพื่อระลึกถึงผู้ที่ตกงาน เหยื่อของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการทำงาน และผู้ที่ตัดสินใจปลิดชีวิตของตนหลังต้องตกงาน เนื่องจากการระยาดใหญ่ของโควิด-19 ด้วย