สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงสิ้นสุดภารกิจการเยือนอิรักเป็นเวลา 4 วัน โดยเสด็จออกจากท่าอากาศยานในกรุงแบกแดดในวันจันทร์ ท่ามกลางผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิรักที่ร่วมทำพิธีอำลาพระสันตะปาปาฟรานซิส
ประมุขศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ทรงเยือนอิรักตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างผู้นับถือศาสนาต่าง ๆ ในอิรัก ท่ามกลางการสู้รบของกลุ่มติดอาวุธกับกองกำลังของรัฐบาลกลาง และการประท้วงในหลายเมือง
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงพบหารือกับแกรนด์ อยาโตลาห์ อาลี อัล-ซิสตานี ผู้นำชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในอิรัก ที่บ้านในเมืองนาจาฟเมื่อวันเสาร์
ต่อมาในวันอาทิตย์ พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในพิธีมิสซาต่อหน้าประชาชนชาวอิรักในเมืองเออร์บิลราว 10,000 คน โดยมีผู้นำทั้งของอิรักและชาวเคิร์ดเข้าร่วม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลต่างชาติ
โป๊ปฟรานซิสยังได้เสด็จเยือนเมืองโมซุลซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มรัฐอิสลาม และเมืองคาราคอช เมืองของชาวคริสต์ในอิรักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์แต่ถูกกลุ่มรัฐอิสลามยึดครองเป็นเวลาหลายปี
ระหว่างการเยือนเมืองโมซุลเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ พระสันตะปาปาทรงเทศนาต่อคริสต์ศาสนิกชนโดยมีฉากหลังเป็นโบสถ์ที่ถูกทำลายจากสงคราม ทรงกระตุ้นให้ชาวคริสต์ในอิรักเดินทางกลับมายังเมืองประวัติศาสตร์แห่งนี้เพื่อเริ่มการฟื้นฟูบูรณะ หลังจากที่มีชาวคริสต์หลายพันคนหลบหนีออกจากเมืองโมซุลในช่วงที่กลุ่มรัฐอิสลามเรืองอำนาจและปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่ทางเหนือของอิรักในช่วงปีค.ศ. 2014
ทั้งนี้ จำนวนชาวคริสต์ในอิรักลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนเหลือราว 300,000 คนในปัจจุบัน