เกิดเหตุยิงกราดภายในไนท์คลับสำหรับสมาชิกชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศแห่งหนึ่งในเมืองโคโลราโด สปริงส์ รัฐโคโลราโด ในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิต 5 คนและได้รับบาดเจ็บอีก 25 คน ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
เหตุยิงกราดครั้งล่าสุดนี้จบลงด้วยการที่ลูกค้าของไนท์คลับช่วยกันเข้าจัดการกับมือปืนที่ตำรวจระบุว่าชื่อ แอนเดอร์สัน ลี อัลดริช วัย 22 ปี ได้สำเร็จก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุและควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีต่อไป
เอเดรียน วาสเกซ หัวหน้าตำรวจโคโลราโด สปริงส์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบปืน 2 กระบอกซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นปืนไรเฟิล ได้ในพื้นที่ คลับ คิว (Club Q) หลังเกิดเหตุในคืนวันเสาร์ และยืนยันว่า “มีวีรบุรุษอย่างน้อย 2 คน” ที่ช่วยหยุดมือปืนไม่ให้ทำการยิงกราดต่อไป
ไมเคิล อัลเลน อัยการเขตเทศมณฑล เอล ปาโซ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังหาเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้และกำลังหาหลักฐานว่า ควรจะดำเนินคดีนี้ในข้อหาอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (hate crime) หรือไม่ แต่ให้ความเห็นด้วยว่า “หนึ่งในข้อหาที่จะฟ้องผู้ต้องหาก็คือ ข้อหาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยเจตนาและมีการวางแผนก่อนล่วงหน้า (first-degree murder)”
แอนโธนี โคลีย์ โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีการรายงานข้อมูลต่าง ๆ ให้กับ เมอร์ริค การ์แลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมรับทราบแล้ว และกรมตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในการสืบสวนคดีนี้ โดยมีสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เตรียมให้ความช่วยเหลืออยู่
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุในแถลงการณ์ว่า ขณะที่ ยังไม่มีความชัดเจนว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้คืออะไร “เราต่างทราบดีว่า ชุมชน LGBTQ+ นั้นตกเป็นเป้าการก่อเหตุรุนแรงอันน่ากลัวที่เกิดจากความเกลียดชังมาตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา” และว่า “พื้นที่ที่ควรจะเป็นที่ ๆ ปลอดภัยและทุกคนได้รับการยอมรับและเป็นที่สำหรับการเฉลิมฉลอง กลับกลายมาเป็นที่เกิดเหตุรุนแรงและน่ากลัว และนี่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งเกินไปแล้ว ... เราต้องกำจัดความไม่เท่าเทียมกันต่าง ๆ ที่นำมาซึ่งความรุนแรงต่อชาว LGBTQ+ ... เราไม่สามารถและจะต้องไม่ยอมทนรับความเกลียดชังใด ๆ”
นอกจากนั้น แจเรด โพลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลราโด ซึ่งเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกของสหรัฐฯ ที่ประกาศว่าตนเป็นเกย์อย่างเปิดเผย ก่อนชนะการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2018 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุ “อันน่าเศร้าและยอมรับไม่ได้”
- ที่มา: เอพี
