ตำรวจในกรุงวอชิงตันเข้าเคลียร์พื้นที่ตั้งเต็นท์ประท้วง ที่มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน ในช่วงเช้าวันพุธ พร้อมจับกุมผู้ประท้วง 33 คน ตามการเปิดเผยของทางการ
ตำรวจกรุงวอชิงตัน ระบุว่า ได้จับกุมผู้ชุมนุมที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ฐานทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและบุกรุกพื้นที่โดยผิดกฎหมาย
ตำรวจเข้ารื้อเต็นท์ผู้ประท้วง หลังจากผู้ชุมนุมหลายสิบคนถือป้าย “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” และ “อย่าแตะต้องราฟาห์” เดินขบวนไปที่บ้านของแอลเลน แกรนเบิร์ก อธิการบดีมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน เมื่อค่ำวันอังคาร แต่ไม่มีการจับกุมผู้ประท้วงที่เดินขบวนไปพื้นที่ดังกล่าว
ทางมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตันได้เตือนเหล่านักศึกษาว่าพวกเขาอาจถูกพักการเรียนจากการเข้าร่วมการประท้วงได้ โดยในแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยระบุว่า “ในระหว่างที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการปกป้องสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีของนักศึกษา การตั้งแคมป์ได้ยกระดับเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยผู้เข้าร่วมฝ่าฝืนนโยบายของมหาวิทยาลัยและกฎระเบียบของเมือง”
ด้านผู้จัดการชุมนุมกล่าวว่าตำรวจได้ใช้สเปรย์พริกไทยในการสลายผู้ชุมนุมเมื่อวันพุธ แต่ทางตำรวจกรุงวอชิงตันระบุว่าพวกเขาได้สลายการชุมนุมเนื่องจาก “มีการยกระดับความรุนแรงของการประท้วงขึ้น”
เอพีรายงานว่า ณ เวลานี้มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 2,600 คน ในมหาวิทยาลัย 50 แห่ง จากการประท้วงของกลุ่มนักศึกษาว่าด้วยสงครามกาซ่าในอเมริกา
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสในกาซ่าบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารประชาชนไปราว 1,200 คน และจับตัวประกันมากกว่า 250 คน ซึ่งทางอิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารในกาซ่าซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 34,700 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 77,000 คน จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขในกาซ่า
- มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี
กระดานความเห็น